สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ต.ค. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ต.ค. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ (12 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ, อัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูง และภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. และการเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมาของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดเห็นพ้องกันที่จะยังคงดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนวิตกว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงของเฟดอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,210.85 จุด ลดลง 28.34 จุด หรือ -0.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,577.03 จุด ลดลง 11.81 จุด หรือ -0.33% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,417.10 จุด ลดลง  9.09 จุด หรือ -0.09%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันพุธ (12 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อสูงกว่าคาด ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการที่ไร้ทิศทางของบริษัทจดทะเบียนทำให้นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มผลกำไรของบริษัทต่าง ๆ

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 385.88 จุด ลดลง 2.07 จุด หรือ -0.53% โดยลดลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,818.47 จุด ลดลง 14.73 จุด หรือ -0.25%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,172.26 จุด ลดลง  47.99 จุด หรือ -0.39% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,826.15 จุด ลดลง 59.08 จุด หรือ -0.86%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพุธ (12 ต.ค.) เป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นและการแข็งค่าของเงินปอนด์ถ่วงตลาดลง นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนในอังกฤษส่งผลกดดันตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,826.15 จุด ลดลง 59.08 จุด หรือ -0.86%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (12 ต.ค.) โดยถูกกดดันหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้และปีหน้า

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 2.08 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 87.27 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 92.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันพุธ (12 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงเกินคาด จะเป็นปัจจัยเร่งให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.5 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,677.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 54.9 เซนต์ หรือ 2.82% ปิดที่ 18.938 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 18.1 ดอลลาร์ หรือ 2.01% ปิดที่ 881 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 14 ดอลลาร์ หรือ 07% ปิดที่ 2,136.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (12 ต.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สูงเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่การเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมาของเฟดบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดเห็นพ้องกันที่จะยังคงดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไป

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.09% แตะที่ระดับ 113.3200

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 146.88 เยน จากระดับ 145.85 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9982 ฟรังก์ จากระดับ 0.9976 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3824 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3812 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9699 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9712 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.1092  ดอลลาร์ จากระดับ 1.1025 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าแตะที่ระดับ 0.6275 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6267 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button