สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 พ.ย. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 พ.ย. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (16 พ.ย.) หลังจากบริษัทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยกำไรทรุดตัวลงในไตรมาส 3 ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มบริษัทค้าปลีก ในขณะที่เทศกาลวันหยุดที่สำคัญกำลังใกล้เข้ามา นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป หลังจากบริษัทไมครอน เทคโนโลยีประกาศแผนปรับลดการผลิตชิปหน่วยความจำ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,553.83 จุด ลดลง 39.09 จุด หรือ -0.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,958.79 จุด ลดลง 32.94 จุด หรือ -0.83% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,183.66 จุด ลดลง 174.75 จุด หรือ -1.54%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงในวันพุธ (16 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเมอร์ซีเดส เบนซ์ กรุ๊ป ขณะที่การคาดการณ์ยอดขายที่ซบเซาจากทาร์เก็ต คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐถ่วงหุ้นกลุ่มค้าปลีกของยุโรปลงด้วยจากความวิตกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภค

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 430.17 จุด ลดลง 4.27 จุด หรือ -0.98%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,607.22 จุด ลดลง 34.44 จุด หรือ -0.52%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,234.03 จุด ลดลง 144.48 จุด หรือ -1.00% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,351.19 จุด ลดลง 18.25 จุด หรือ -0.25%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันพุธ (16 พ.ย.) หลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถ่วงตลาดลง นอกจากนี้ เงินเฟ้อของอังกฤษที่พุ่งสูงสุดในรอบ 41 ปีได้ตอกย้ำวิกฤตค่าครองชีพที่รุนแรง และถ่วงหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลง

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,351.19 จุด ลดลง 18.25 จุด หรือ -0.25%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (16 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า รัสเซียเริ่มกลับมาลำเลียงน้ำมันผ่านทางท่อส่งดรูซบา (Druzhba) ไปยังฮังการีแล้ว หลังจากที่ถูกระงับก่อนหน้านี้เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ย่ำแย่ลงในจีน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 85.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 92.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (16 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนในระหว่างวัน

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.06% ปิดที่ 1,775.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.6 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 21.524 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.  ลดลง 6.2 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่ 1,016.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,081.30 ดอลลาร์/ออนซ์

เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (16 พ.ย.) หลังมีรายงานว่าตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 41 ปี ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.12% แตะที่ 106.2810

เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1913 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1873 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.0394 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0365 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 139.34 เยน จากระดับ 139.13 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9441 ฟรังก์ จากระดับ 0.9424 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3329 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3285 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4822 โครนา จากระดับ 10.4530 โครนา

Back to top button