SRS ยื่นไฟลิ่งขาย “ไอพีโอ” 40 ล้านหุ้น ระดมทุนต่อยอดพัฒนาระบบ

“สิริซอฟต์” หรือ SRS ยื่นไฟลิ่งขาย “ไอพีโอ” จำนวน 40 ล้านหุ้น ระดมทุนต่อยอดพัฒนาระบบ โดยมี “ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โชว์กำไร 3 ปี ทะยานต่อเนื่อง


นายสิริวัฒน์ ธนุรเวท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิริซอฟต์ จำกัด (มหาชน) หรือ SRS เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าเสนอขายไอพีโอจำนวน 40 ล้านหุ้น เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจเทคโนโลยี โดยมี บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

โดยการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักลงทุนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดความสำเร็จของเรา ในฐานะองค์กรยุคใหม่ด้านเทคโนโลยี ให้บริการด้านที่ปรึกษาและการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร สอดรับกับภาพรวมอุตสาหกรรมบริการดิจิทัลและซอฟต์แวร์ ที่มีการเติบโต และดีมานด์ความต้องการของภาคธุรกิจที่มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อติดอาวุธในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) และสามารถเติบโตได้อย่างแท้จริง

สำหรับ SRS คือที่ปรึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับองค์กรอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การออกแบบ พัฒนา และดูแลรักษาระบบ ผ่านแนวทางการทำงานแบบ DevOps (Development & Operations) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างแนวความคิดเชิงวัฒนธรรม แนวทางปฏิบัติ และเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความสามารถขององค์กรในการส่งมอบระบบหรือซอฟต์แวร์และบริการได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ มากกว่ากระบวนการพัฒนาระบบหรือซอฟต์แวร์และการจัดการโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบหรือซอฟต์แวร์ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Microservices ทำให้การพัฒนาระบบหรือซอฟต์แวร์มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในระบบ และง่ายต่อการบำรุงรักษาและการเฝ้าระวัง ส่งผลให้ระบบที่ถูกพัฒนาเสร็จสิ้นแล้ว สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งมอบงานได้ทันเวลา ตรงตามความต้องการของลูกค้า และสามารถออกผลิตภัณฑ์ได้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค (Time-to-Market)

อีกทั้งบริษัทฯ ยังเป็นพันธมิตรกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น (1) Red Hat (2) Oracle (3) Dynatrace (4) Huawei เป็นต้น ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมระดับสากล มีบริษัทย่อย คือ บริษัท เอส อาร์ เอส อินทิเกรชั่น จำกัด (SRSI) ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการรักษาความปลอดภัยบนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและให้บริการพัฒนาระบบ Cyber Security สนับสนุนความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร

สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุน SRS เตรียมนำไปใช้สำหรับพัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานภายในองค์กร ใช้สรรหาและพัฒนาบุคลากรในการพัฒนาระบบหรือซอฟต์แวร์ รวมถึงการขยายพื้นที่สำนักงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโต ด้วยวิสัยทัศน์ เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีคุณภาพ ซื่อสัตย์ ยุติธรรม และยั่งยืน

นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของบริษัท สิริซอฟต์ จำกัด (มหาชน) หรือ SRS เปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ สำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว โดยการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO หุ้นที่เสนอขายทั้งหมด จำนวน 40,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเสนอขายภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในครั้งนี้ เดินหน้าเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจเทคโนโลยี (Technology)

พร้อมชูจุดเด่น SRS มีการให้บริการที่ครบวงจรระดับมืออาชีพ ด้วยทีมผู้บริหารและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในด้านการพัฒนาระบบหรือซอฟต์แวร์ด้วยแนวคิดวัฒนธรรมและแนวปฏิบัติแบบ DevOps ร่วมกับการออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ Microservices และการบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ทำให้ประสบความสำเร็จในการส่งมอบงานให้กับลูกค้า และได้รับความไว้วางใจมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง การเติบโตของทีมนักพัฒนา สะท้อนมายังผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด สอดรับไปกับแนวโน้มการลงทุนด้านระบบไอทีที่เพิ่มขึ้นของหลากหลายองค์กรในประเทศไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเติบโตในยุคดิจิทัล

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานตลอด 3 ปีที่ผ่านมา (ในปี 2563 – 2565) มีรายได้รวม 72.96 ล้านบาท 188.53 ล้านบาท และ 412.01 ล้านบาท ตามลำดับ นับเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2565 มีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการ ซึ่งประกอบด้วย รายได้จากการให้บริการคำปรึกษาและพัฒนาระบบ รายได้จากการบริการบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) และการบริการอื่นๆ สัดส่วน 62.47% และ รายได้จากการขาย

ประกอบด้วย รายได้จากการขายสิทธิการใช้งานซอฟต์แวร์และการขายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง สัดส่วน 37.24% ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2565 กลุ่มบริษัทมีพนักงานรวมทั้งสิ้น 215 คน เกิดจากการเพิ่มขึ้นของฝ่ายพัฒนาซอฟต์แวร์ และฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์เป็นหลัก เพื่อขยายขีดความสามารถในการให้บริการตามจำนวนของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ กำไรสุทธิในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ในปี 2563 – 2565) อยู่ที่ 14.39 ล้านบาท 25.47 ล้านบาท และ 68.69 ล้านบาท ตามลำดับ

Back to top button