CRC กำไร Q1 โต 80% ทะลุ 2 พันล้าน รับรายได้ขาย-บริการพุ่ง

CRC เปิดงบไตรมาส 1/66 มีกำไร 2.17 พันล้านบาท โต 80% จากปีก่อนกำไร 1.2 พันล้านบาท รับรายได้ขายและบริการพุ่ง หลังท่องเที่ยวฟื้น-ขยายสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศ


บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/66 ดังนี้

สำหรับไตรมาส 1/66 บริษัทฯ มีรายได้รวม 63,206 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.3 จากปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นในทุกส่วนงาน เนื่องจากการกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และการปรับปรุงสาขาเก่าและการขยายสาขาใหม่ รวมทั้งการเปิดร้านรูปแบบใหม่และการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ (rebranding) อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีรายได้จากการให้บริการเช่าที่เพิ่มขึ้นจากการขยายพื้นที่ให้เช่าทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม และมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้นตามยอดขาย

ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 1/66 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย เท่ากับ 56,712 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลงร้อยละ 2.0 จากไตรมาสก่อน) โดยรายได้จากการขายสามารถจำแนกได้ตามส่วนงานธุรกิจของบริษัทฯ ดังนี้

ส่วนงานแฟชั่น 14,994 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลงร้อยละ 14.8 จากไตรมาสก่อน) จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายของส่วนงานในประเทศไทย โดยเฉพาะสาขาในจังหวัดท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างมากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ในไตรมาสนี้ส่วนงานได้มีการปรับปรุงสาขา ได้แก่ สาขาชิดลม เมกาบางนาและแฟชั่นไอส์แลนด์ สำหรับส่วนงานในประเทศอิตาลี ยอดขายเพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และผลจากการปรับปรุงสาขา Milan และ Monza รวมทั้งการเพิ่มแบรนด์สินค้าให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในขณะที่ปีก่อนมีการปิดประเทศจนกระทั่งเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งในเดือนมี.ค65 สำหรับยอดขาย Omnichannel ลดลง 3% จากปีก่อนเนื่องจากลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าที่สาขามากขึ้น

ส่วนงานฮาร์ดไลน์ 18,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 จากไตรมาสก่อน)เนื่องมาจากในไตรมาสนี้ยอดขายได้เพิ่มขึ้นทั้งจากสาขาเก่าและสาขาใหม่ รวมถึงสาขาที่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวมีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยไทวัสดุได้เปิดสาขาใหม่ 4 สาขา ที่จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดภูเก็ต และ สาขา รังสิต จังหวัดกรุงเทพฯ สำหรับยอดขายผ่าน Omnichannel ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้ ยอดขาย Omnichannel เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จากปีก่อน หลังจากมีการเปิดใช้แอปพลิเคชันของไทวัสดุตั้งแต่ไตรมาสก่อน

ส่วนงานฟู้ด 22,995 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 จากไตรมาสก่อน) โดยยอดขายได้เพิ่มขึ้นทั้งจากส่วนงานในประเทศไทยและในประเทศเวียดนาม สำหรับประเทศไทยยอดขายเพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ทำให้ยอดขายของสาขาในจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญเพิ่มขึ้น และการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์(rebranding) Tops เพื่อให้ลูกค้ำาจดจำได้ง่าย นอกจากนี้ส่วนงานได้เปิดสาขาใหม่ ได้แก่ สาขา Tops standalone ที่สาธุประดิษฐ์ และ Tops Food Hall ที่กองหล่อ ส่วนยอดขายจากส่วนงานในประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้นจาก เทศกาลตรุษจีนในประเทศเวียดนาม และผลตอบรับที่ดีของการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ (rebranding) Big C เป็น GO! mall และ GO! hypermarket 1 สาขา Tan Hiep เมืองโฮจิมินห์ และได้มีการเปิดสาขาใหม่ ได้แก่ go! Tan Uyen สำหรับยอดขายผ่านOmnichannel ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้ ยอดขาย Omnichannel เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากปีก่อน

รวมทั้งมีรายได้จากการให้บริการเช่า 1,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากจำนวนผู้ใช้บริการที่มากขึ้น และการขยายพื้นที่ให้เช่าของส่วนงานในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม

ขณะเดียวกันรายได้จากการให้บริการ 397 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีผู้ใช้บริการศูนย์อาหารมากขึ้นโดยเฉพาะสาขาที่อยู่ใกล้อาคารสำนักงาน

Back to top button