“ทองนิวยอร์ก” ปิดลบ 4.30 เหรียญ เซ่นดอลลาร์แข็งค่า

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดลบ 4.30 ดอลลาร์ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดลบในวันศุกร์ (21 ก.ค.66) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.30 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,966.60 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 0.1% ในรอบสัปดาห์นี้ และปรับตัวขึ้นราว 1.6% แล้วในเดือนนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 10.70 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 24.855 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 8.10 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 972.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 11.20 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,286.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำร่วงลงหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.19% แตะที่ 101.0724 ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กในวันศุกร์

ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

โดยบรรดานักลงทุนรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งก่อนยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ขณะที่ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.8% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 0.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%

Back to top button