LPN แนวสูง..กำไรต่ำ.!?

ใจหายแว๊บ..!! เมื่อเห็นงบไตรมาส 2/2566 ของ LPN กำไรสุทธิทรุดฮวบเหลือแค่ 87.10 ลบ. -40.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 147.44 ลบ.


ใจหายแว๊บ..!! เมื่อเห็นงบไตรมาส 2/2566 ของบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กำไรสุทธิทรุดฮวบเหลือแค่ 87.10 ล้านบาท ลดลง 40.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 147.44 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ 1,172.82 ล้านบาท ลดลง 23.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,539.30 ล้านบาท

เกิดอะไรขึ้นกับ LPN ละเนี่ย…เหตุใดกำไรถึงได้ลดลงฮวบฮาบขนาดนั้น..?

แม้ไม่มีรายละเอียดจากบริษัทมากนัก แต่ถ้าวิเคราะห์จากปัจจัยแวดล้อม น่าจะเกิดจากการที่อสังหาฯ แนวดิ่ง หรือคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นสินค้าหลักของ LPN เป็นตลาดที่แข่งขันกันรุนแรง จนกลายเป็นเรดโอเชียน หรือทะเลสีเลือดไปแล้ว อันเนื่องมาจาก 1) ด้วยพื้นที่ที่จำกัด โดยเฉพาะทำเลทองในเมือง และแนวรถไฟฟ้า ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ค่อย ๆ หันมารุกตลาดคอนโดฯ แทนที่จะทำโครงการแนวราบ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ทำให้มีคอนโดฯ เปิดใหม่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดหน้าฝน

และ 2) เมื่อในตลาดมีซัพพลายเยอะ แต่ดีมานด์จำกัด ทำให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกมากขึ้น เกิดเป็นปรากฏการณ์โอเวอร์ซัพพลาย

ในขณะที่ตลาดระดับกลางและล่างที่ LPN ยึดหัวหาดนั้น เป็นกลุ่มค่อนข้างอ่อนไหว เพราะเมื่อมีปัญหาหรือวิกฤตก็มักจะได้รับผลกระทบก่อน การไปขอกู้แบงก์ก็จะยาก เพราะแบงก์จะมีความเข้มงวดมากขึ้น ทำให้แม้จะเห็นตัวเลขยอดขาย หรือ Presale โตระเบิดระเบ้อ แต่ยอดโอนอาจไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ไม่นับรวมผลกระทบจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ของแบงก์ชาติที่เข้มงวด และเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น ที่เป็นอุปสรรคต่อการซื้อที่อยู่อาศัย…

จากปัจจัยข้างต้น ก็เลยทำให้งบไตรมาส 2/2566 ของ LPN ไม่ดีอย่างที่เห็น…

แล้วถ้าไปเจาะดูไส้ใน ยิ่งน่าตกใจ เพราะทรุดทุกตัว ไล่มาตั้งแต่รายได้จากอาคารชุดพักอาศัย ลดลง 16.1% อยู่ที่ 804.64 ล้านบาท ส่วนรายได้จากบ้านพักอาศัย ลดลง 36.4% อยู่ที่ 368.17 ล้านบาท

ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นรวม ลดลงจาก 21.31% ในไตรมาส 2/2565 มาอยู่ที่ 21.24% ในไตรมาส 2/2566 ส่วนอัตรากำไรสุทธิ ลดลงจาก 7.40% ในไตรมาส 2/2565 มาอยู่ที่ 5.01% ในไตรมาส 2/2566

ส่งผลให้งบงวด 6 เดือนแรกปีนี้ LPN มีกำไรสุทธิ 232.13 ล้านบาท ลดลง 31.48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 338.77 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 2,453.04 ล้านบาท ลดลง 26.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 3,323.96 ล้านบาท

ยิ่งตอกย้ำว่า LPN แนวสูง…แต่กำไรต่ำ..!!

ดีนะเนี่ยที่ยังได้ชื่อว่าเป็นหุ้นที่มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนค่อนข้างสูง ล่าสุดยีลด์อยู่ที่ 5.29% เลยทำให้ไม่ถูกเมินซะทีเดียว…

ที่จริง LPN ก็รู้ชะตากรรมของตัวเองดีนะ จึงพยายามแก้เกมธุรกิจ ด้วยการประกาศทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ พลิกโฉมแบรนด์ใหม่ เปลี่ยนชื่อโครงการเป็นตระกูล “168” ทั้งหมด เพื่อล้างภาพจำแบรนด์ “ลุมพินี” ที่ถูกมองว่า “แก่” และ “ไม่ทันสมัย” เข้าสู่ยุคใหม่ที่จะมีทั้งบ้านพรีเมียม ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท ไปจนถึง 30-50 ล้านบาท, ทาวน์เฮาส์ เริ่มที่ 3 ล้านบาท และคอนโดฯ เริ่มต้นที่ 1.5-3 ล้านบาท

พร้อมตั้งเป้าหมายภายในปี 2569 สู่รายได้รวม 50,000 ล้านบาท กำไรโตอย่างน้อยปีละ 10% และขึ้นเป็น 1 ใน 5 TOP OF MIND แบรนด์ในใจผู้บริโภคยุคใหม่

ก็ดูเร้าใจนะ ส่วนจะทำได้หรือเปล่า..? อีกเรื่องหนึ่ง…

…อิ อิ อิ…

Back to top button