SABUY ลดทุน..ทอนไดลูท.!?

จากกรณี SABUY แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าด้วยเรื่องการกำหนดจะขายหุ้นที่ซื้อคืนมาก่อนหน้านี้ พ่วงด้วยการลดทุน...ก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร


จากกรณีบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ของ “ป๋าชูเกียรติ รุจนพรพจี” แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าด้วยเรื่องการกำหนดจะขายหุ้นที่ซื้อคืนมาก่อนหน้านี้จำนวน 87.20 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.98% พ่วงด้วยการลดทุน…ก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร ถือเป็นเรื่องที่พึงกระทำตามกรอบกฎหมาย..!?

แต่ไฮไลต์ของการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้ เป้าหมายจะเอาไปลดทุนนี่สิ ซึ่งถ้าย้อนไปดูคำให้สัมภาษณ์ของ “ป๋าชูเกียรติ” เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ก็ประกาศชัด “จะลดทุนเพิ่มมูลค่าหุ้น”…งั้นก็ฟันธงได้เลยว่า SABUY ไม่ขายหุ้นทิ้งอย่างแน่นอน..!!

สิ่งที่ตามมาหลังลดทุนด้วยการตัดหุ้นทิ้ง 87.20 ล้านหุ้น คิดเป็น 4.98%…EPS หรือกำไรต่อหุ้นของ SABUY ก็จะเพิ่มขึ้น 4.98% รวมถึงดิวิเดนด์ยีลด์ก็จะเพิ่มขึ้น 4.98% เช่นกัน…

วันก่อน (อังคารที่ 24 ต.ค.) จึงเห็นหุ้น SABUY ออกอาการระริกระรี้ตอบรับข่าวดังกล่าว ด้วยการวิ่งสวนภาวะตลาดที่แดงเถือก ปรับเพิ่มขึ้น 12.35% ปิดตลาดที่ 5.55 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นกว่า 190.02 ล้านบาท ขณะที่วานนี้ (25 ต.ค.) ก็วิ่งสวนภาวะตลาดที่ปิดบวกอีกเหมือนเคย โดยราคาปรับลดลง 5.41% ปิดตลาด 5.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 126.93 ล้านบาท

ส่วนที่มาที่ไปที่  SABUY ต้องซื้อหุ้นคืน พ่วงด้วยการลดทุนนั้น คงยังจำไม่เคยลืมเลือน โดยเฉพาะผู้ถือหุ้น SABUY จะเห็นว่าช่วง 2-3 ปีมานี้ SABUY จะใช้กลยุทธ์การเติบโตแบบอินออร์แกนิก ไปเทกโอเวอร์กิจการอื่นเป็นว่าเล่น เพื่อปั้นรายได้และกำไรให้เติบโตกระโดดโลดเล่น…

อ้อ…ก่อนหน้านี้เคยฝันกลางวันว่าในปี 2566 จะมีรายได้แตะระดับ 20,000 ล้านบาท แต่ภาวะเศรษฐกิจไม่เป็นใจซะงั้น เลยเป็นที่มาของการปรับลดเป้ารายได้เหลือแค่ 12,000 ล้านบาท…ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะทำได้อ๊ะป่าว..? เพราะผลงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 มีรายได้รวมแค่ 5,106 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 346 ล้านบาทเท่านั้น

ดูแล้วน่าจะเหนื่อย…แต่ก็เอาใจช่วยนะคะ “ป๋าชูเกียรติ”..!?

กลับมาที่การเทกโอเวอร์กิจการของ SABUY นั้น ประเด็นอยู่ที่ไม่ได้ควักเงินในกระเป๋าตัวเองไปซื้อน่ะสิ แต่จะใช้วิธีออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อไปสว็อป หรือแลกหุ้นกับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทนั้น ๆ แทน…ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะบริษัทไม่ต้องไปกู้แบงก์ มีต้นทุนภาระดอกเบี้ย ส่วนเงินสดที่มี ก็นำไปใช้ในการดำเนินงานขยายกิจการต่อไป

แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ เพราะผลพวงที่ตามมาก็คือเกิดไดลูชันเอฟเฟกต์อยู่เนือง ๆ ทำให้ผู้ถือหุ้น SABUY ได้รับผลกระทบจากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้น…

มิน่าล่ะ…จึงเห็นราคาหุ้น SABUY ทำให้ผู้ถือหุ้นไม่สบายกันเป็นแถว จากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว หรือในวันที่ 18 ม.ค. 2565 ราคาขึ้นไปแตะที่ระดับสูงสุด 38.00 บาท มาวันนี้ซื้อขายกันแค่ 5 บาทเศษเท่านั้น…เท่ากับว่า ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ราคาปรับลดลงไปแล้วกว่า 85% เลยทีเดียว…

ขณะที่การลดทุนด้วยการตัดหุ้นทิ้งไป จะช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าว..!!

โอเค…ถึงแม้การลดทุนครั้งนี้เป็นการลดทอนไดลูชันเอฟเฟกต์ได้แค่บางส่วน แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย…ว่าป๊ะล่ะ

แต่หากต้องการจะลดทอนให้หมดจดจริง ๆ SABUY ก็ต้องสร้างกำไรให้เติบโตระเบิดเถิดเทิงแล้วล่ะ ซึ่งเป็นโจทย์ท้าทายของ “ป๋าชูเกียรติ” และทีมผู้บริหาร SABUY ว่าจะทำได้หรือเปล่า..?

ไม่งั้น SABUY ก็อาจกลายเป็นหุ้นที่ไม่มีใครเหลียวแลก็ได้นะจิบอกให้..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button