สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 พ.ย.2566

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 พ.ย.2566


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (7 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,152.60 จุด เพิ่มขึ้น 56.74 จุด หรือ +0.17%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,378.38 จุด เพิ่มขึ้น 12.40 จุด หรือ +0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,639.86 จุด เพิ่มขึ้น  121.08 จุด หรือ +0.90%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันอังคาร (7 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นโปรตุเกส หลังจากนายกรัฐมนตรีอันโตนิโอ คอสตา ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีการสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำผิดในการจัดการโครงการเหมืองแร่ลิเทียมและไฮโดรเจนในประเทศ

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 442.81 จุด ลดลง 0.71 จุด หรือ -0.16%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,986.23 จุด ลดลง 27.50 จุด หรือ -0.39%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,152.64 จุด เพิ่มขึ้น 16.67 จุด หรือ +0.11% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,410.04 จุด ลดลง 7.72 จุด หรือ -0.10%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (7 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,410.04 จุด ลดลง 7.72 จุด หรือ -0.10%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4% ในวันอังคาร (7 พ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน รวมทั้งรายงานการส่งออกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันด้วย

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.45 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 77.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.57 ดอลลาร์ หรือ 4.2% ปิดที่ 81.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (7 พ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยฉุดตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 15.10 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 1,973.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 64.50 เซนต์ หรือ 2.78% ปิดที่ 22.589 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 19.60 ดอลลาร์ หรือ 2.14% ปิดที่ 898.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 51.50 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 1062.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (7 พ.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งรวมถึงนายนีล แคชแครี ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส ได้สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.31% แตะที่ 105.5460

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 150.4370 เยน จากระดับ 149.9690 เยนในวันจันทร์ (6 พ.ย.) นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9003 ฟรังก์ จากระดับ 0.8987 ฟรังก์, แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3758 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3691 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.9253 โครนา จากระดับ 10.9080 โครนา

ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0694 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0723 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2295 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2351 ดอลลาร์

Back to top button