OSP บวก 3% เก็งงบ Q1 โตแรง โบรกแนะ “ซื้อ” เคาะเป้าสูง 31 บาท  

OSP บวก 3% เก็งงบไตรมาส 1/67 โตแรง อานิสงส์หน้าร้อน แนะซื้อเคาะเป้าสูง 31 บาท พร้อมคงประมาณการกำไรปกติปี 67 แตะ 2.8 พันล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(23 เม.ย.67) บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ณ เวลา 11:19 น. อยู่ที่ระดับ 21.00 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 3.45% ราคาสูงสุด 21.10 บาท ราคาต่ำสุด 20.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 317.89 ล้านบาท

บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  OSP อัพเดทข้อมูลการดำเนินการในที่ประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ จากข้อมูลทำให้คาดว่าบริษัทจะสามารถรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/67 แข็งแกร่งโดยเติบโตแรงถึง 30.9% เทียบไตรมาสก่อนหน้า และโต48.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 749 ล้านบาท คิดเป็น 31% ของประมาณการการทั้งปีนี้ของเรา

ทั้งนี้มองตัวเลข earnings preview ไตรมาส 1/67 ดูแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดประเมินไว้ก่อนหน้านี้มาก ด้าน valuation ราคาหุ้นปรับตัวลง 8.97% ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน เทียบกับ SET ที่ลดลง 5.92% ทำให้ OSP ซื้อขายด้วย PER ปี 2567 ที่ 20 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตถึง -2SD

ด้านบล.กรุงศรี พัฒนสิน มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรปกติในไตรมาส 1/67 ของ OSP คาดกำไรที่ 810 ล้านบาท (70% เทียบช่วงเดียวกัน, โต 37% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) กลับมาโตดีที่สุดในรอบ 9 ไตรมาส ปัจจัยหนุนหลักจาก ธุรกิจเครื่องดื่มต่างประเทศคาดเพิ่มขึ้น 25% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โต 83% เทียบไตรมาสก่อนหน้า โดยเฉพาะเมียนมาเติบโตโดดเด่น อานิสงส์หน้าร้อน สวนทางกับความกังวลด้านสถานการณ์สู้รบภายในประเทศ

ขณะที่เครื่องดื่มภายในประเทศ market share Energy drink 46.4% เพิ่มขึ้น +50bps เทียบไตรมาสก่อนหน้า รวมทั้งคาดว่า GPM เพิ่มขึ้นเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า เพราะต้นทุนลด และ cost efficiency เพิ่ม หลังปิดโรงงานและขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักและ SG&A/sales ลดลง จากยอดขายที่โตในอัตราเร่งสูง ขณะที่ค่าใช้จ่ายทรงตัว

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/67 คาดโตเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากฐานต่ำ และทรงตัวเทียบไตรมาสก่อนหน้า ในระดับสูง อานิสงส์หน้าร้อน อย่างไรก็ตามคาดครึ่งแรกปีนี้ ดีกว่าครึ่งหลังปีก่อนเพราะช่วงต้นปีอากาศร้อนกว่า ขณะที่ ไตรมาส 3/67 เข้าฤดูฝนเป็น Low season จึงยังคงประมาณการกำไรปกติปี 67 ที่ 2.8 พันล้านบาท (โต 30% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน)  คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 31 บาท

ขณะที่ บล.ดาโอ ปรับคำแนะนำจาก “ถือ” ที่ 22.00 บาท ขึ้นเป็น “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 28 บาท สะท้อนการฟื้นตัวของ market share ของ energy drink ในประเทศที่ดีกว่าคาด และรายได้เมียนมา ซึ่งเติบโตสวนกระแสความไม่สงบในเมียนมา ทั้งนี้ประเมินกำไรสุทธิ ไตรมาส 1/67 ที่ 841 ล้านบาท (โต 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, โต 94%เทียบไตรมาสก่อนหน้า)

ด้านราคาหุ้น outperform SET +3% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันเทรดอยู่ที่ PER19.0 เท่า น่าสนใจ ยังไม่สะท้อนกำไรปี 67 ที่เติบโตโดดเด่น โดยเราคาดว่าตลาดจะปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 67 ขึ้นจากแนวโน้มรายได้ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึง GPM ที่สูงกว่าคาด

Back to top button