SCC เด้งแรง 5% โบรกอัพเป้าสูง 210 บ. หลังโชว์กำไร Q1 ดีเกินคาด! จับตาไตรมาส 2 แกร่ง
SCC เด้งแรง 5% หลังโชว์กำไรไตรมาสแรกหักปากกาเซียน 1,099 ล้านบาท สูงกว่าตลาดคาดการณ์ 113% ลุ้นสัญญาณเชิงบวก หลังธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง-บรรจุภัณฑ์ดีกว่าคาด ผู้บริหารมั่นใจงบไตรมาส 2/68 ดีกว่านี้ ตั้งเป้ายอดขายปี 68 โต 3-5% ด้าน ASP ให้เป้าหมายราคาสูงสุด 210 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(6 พ.ค.68) ราคาหุ้นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC ณ เวลา 10:43 น. อยู่ที่ระดับ 169.00 บาท บวก 9.00 บาท หรือ 5.30% ราคาสูงสุด 171.00 บาท ราคาต่ำสุด 162.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 575.55 ล้านบาท
นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCC เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 1 ปี 2568 มีกำไร 1,099 ล้านบาท ลดลง 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาส 1 ปี 2567 เอสซีจี เคมีคอลส์ (SCGC) มีกำไรจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือประกอบกับในไตรมาส 1 ปี 2568 ทั้งนี้หากไม่รวมผลการดำเนินงานของลองเซิน ปิโตรเคมิคอลส์คอมเพล็กซ์ที่ประเทศเวียดนาม (LSP) ผลการดำเนินงานของเอสซีจีมีกำไรอยู่ที่ 4,019 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานไตรมาสนี้มาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง การดำเนินงานธุรกิจเคมิคอลส์มีอัตราการดำเนินงานที่แข่งขันได้ รวมถึงธุรกิจแพ็กเกจจิ้งที่ยังคงแข็งแกร่งจากการดำเนินงานของธุรกิจที่เชื่อมโยงกับผู้บริโภค และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (ไตรมาส 4/2567) กำไรสำหรับงวดนี้เพิ่มขึ้น 1,611 ล้านบาท (จากขาดทุน 512 ล้านบาท) เป็นผลจากการบริหารจัดการภายในและการปรับปรุงประสิทธิภาพของทุกธุรกิจ รวมถึงจากความต้องการตามฤดูกาลปรับเพิ่มขึ้นจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง ประกอบกับผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจาก SCGC และบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 จะเติบโตได้ดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า จากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน ประกอบกับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ยังปรับตัวขึ้นได้ จากการขายผลิตภัณฑ์มาร์จิ้นสูง
โดยเป้าหมายยอดขายปี 2568 ที่วางไว้จะเติบโต 3-5% บริษัทประเมินว่ายังคงมีความท้าทายและยังต้องติดตามปัจจัยในต่างประเทศอย่างสงครามการค้า ซึ่งจะเริ่มเห็นความชัดเจนและผลกระทบในไตรมาส 3/2568-4/2568 ในปัจจุบันจึงยังไม่มีการปรับเป้าทั้งปีลง แม้ว่าไตรมาส 1/2568 จะเติบโตได้ต่ำ
ทั้งนี้ บริษัทได้มีแผนการรับมือจากสถานการณ์ในต่างประเทศด้วย 4 กลยุทธ์ ประกอบไปด้วย
1.ลดดต้นทุนแข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก
2.ขยายพอร์ตสินค้าให้รองรับความต้องการตลาดทุกระดับ ทั้ง “สินค้ามูลค่าเพิ่มสูง สินค้ากรีน และสินค้าคุณภาพ ราคาจับต้องได้”
3.บุกตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง และ 4.สร้างความได้เปรียบโดยส่งออกจากฐานการผลิตที่หลากหลายในภูมิภาคอาเซียน
เป้าหมายสูงสุด 210 บาท
รายงานจาก LSEG CONSENSUS ประมาณการรายได้รวมของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ปี 2568 ที่ 537,515.85 ล้านบาท ประมาณการกำไรสุทธิที่ 9,060.09 ล้านบาท ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 173.76 บาท จาก 18 โบรกเกอร์ โดยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASP) ให้ราคาเป้าหมายสูงสุด 210 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,099 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 517 ล้านบาท ดีกว่าค่าเฉลี่ยถึง 113%
จากข้อมูลประมาณการของบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ได้แก่
1.บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASP) ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 931 ล้านบาท (กำไรจริงออกมาสูงกว่าคาด 18%)
2.บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (INVX) ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 889 ล้านบาท (กำไรจริงออกมาสูงกว่าคาด 24%)
3.บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด (TRINITY) ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 812 ล้านบาท (กำไรจริงออกมาสูงกว่าคาด 35%)
4.บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด (TISCO) ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 694 ล้านบาท (กำไรจริงออกมาสูงกว่าคาด 58%)
5.บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (DBSV) ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 681 ล้านบาท (กำไรจริงออกมาสูงกว่าคาด 61%)
6.บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (UOBKH) ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 652 ล้านบาท (กำไรจริงออกมาสูงกว่าคาด 69%)
7.บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (KSS) ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 617 ล้านบาท (กำไรจริงออกมาสูงกว่าคาด 78%)
8.บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (YUANTA) ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 602 ล้านบาท (กำไรจริงออกมาสูงกว่าคาด 83%)
9.บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (CGSI) ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 436 ล้านบาท (กำไรจริงออกมาสูงกว่าคาด 152%) และ
10.บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (DAOL) ประมาณการขาดทุนสุทธิไว้ที่ 1,064 ล้านบาท (กำไรจริงออกมาสูงกว่าคาด 203%)
อย่างไรก็ตาม แม้ผลกำไรสุทธิจริงของ SCC ที่ออกมา 1,099 ล้านบาท จะลดลงจากปีก่อน 55% YoY แต่ยังถือว่าสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินไว้มาก ขณะที่ภาพรวมผลประกอบการยังคงชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ตัวเลขกำไรที่สูงกว่าคาดนี้อาจส่งสัญญาณเชิงบวกในระยะสั้นต่อตัวหุ้น SCC