ความมั่นคงไฟฟ้าญี่ปุ่น

ช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา “ญี่ปุ่น” ล้มเลิกคาดการณ์ที่ก่อนหน้านี้ประเมินว่า ความต้องการไฟฟ้าในอนาคต จะลดลงจากการเพิ่มขึ้นของประชากรสูงอายุ พร้อมกับเริ่มประมาณการถึงการใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้นจากศูนย์ข้อมูลและผู้ผลิตไมโครชิปที่ใช้ขับเคลื่อนปัญญาประดิษฐ์ (AI)

รัฐบาลญี่ปุ่นประเมินว่าปี 2583 ปริมาณการผลิตไฟฟ้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10-20%

ก่อนหน้านี้ DeepSeek มีการเปิดตัวระบบ AI ช่วยเหลือฟรี โดยใช้ข้อมูลและเงินลงทุนที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่ง และ AI ตัวนี้เองสามารถเอาชนะคู่แข่งจากสหรัฐฯ ChatGPT ด้านปริมาณการดาวน์โหลดจาก App Store ส่งผลให้เกิดการเทขายหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก

บรรดาผู้ผลิตพลังงานที่ก่อนหน้านี้ เห็นราคาหุ้นตัวเองพุ่งสูงขึ้นจากการพัฒนา AI ที่มีความต้องการไฟฟ้าที่สูงขึ้น ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่า AI ของ DeepSeek ใช้พลังงานที่ประหยัดกว่าเดิม

นักวิเคราะห์ประเมินว่า AI ของ DeepSeek ทำให้กำแพงการเข้าสู่ตลาดภาคอุตสาหกรรมที่ถูกครอบงำโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ จากซิลิคอนแวลลีย์ (Silicon Valley) ลดลง และเพิ่มความต้องการใช้ไฟฟ้าสำหรับบริษัท AI รายใหม่ที่เข้ามาในตลาด

นั่นกลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับญี่ปุ่น เนื่องจากสามารถผลิตพลังงานจากแหล่งในประเทศได้เพียงแค่ 13% ของความต้องการทั้งหมด ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นอัตราต่ำที่สุดเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD)

Yuriy Humber ซีอีโอ K.K. Yuri Group บ่งชี้ว่า หากการผลิต AI ใช้ทุนน้อยลงจะมีการเปิดตัว AI มากขึ้น นั่นจะเพิ่มความต้องการพลังงานภายในประเทศ

ทำให้ขณะนี้ญี่ปุ่นกำลังปรับประมาณการความต้องการพลังงาน..!!??

ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่น ออกมาอ้างถึงความจำเป็นต้องเปิดใช้งานเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีกครั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น ในการพัฒนา AI 

นี่ถือเป็นประเด็นอ่อนไหวในญี่ปุ่น หลังเกิดเหตุภัยพิบัตินิวเคลียร์โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ทั้งจากแผ่นดินไหวและสึนามิช่วงปี 2554

Mika Ohbayashi ผู้อำนวยการ Renewable Energy Institute ระบุว่า การเปิดตัวของ DeepSeek เป็นสัญญาณว่า AI กำลังมีประสิทธิภาพมากขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง พร้อมวิพากษ์การส่งเสริมพลังงานนิวเคลียร์ และผลักดันให้รัฐบาลหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนแทน

อย่างไรก็ดียังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า AI ของ DeepSeek จะทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นหรือลดลง เทคโนโลยีนี้จำเป็นต้องได้รับการทดสอบในประเทศอื่น ๆ ก่อน จึงจะสามารถเริ่มปรับแผนพลังงาน แต่ญี่ปุ่นเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการเตรียมพลังงานสำหรับเทคโนโลยี ที่ไม่ได้เป็นไปตามคาดมาก่อน

ช่วง 2523 ญี่ปุ่นเคยเป็นผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกและพยายามสร้างโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ แต่สุดท้ายกลับต้องเผชิญกับวิกฤตฟองสบู่เศรษฐกิจ ทำให้ความต้องการพลังงาน ตามที่คาดหวังไว้ไม่เกิดขึ้นจริง ส่งผลให้ผู้กำหนดนโยบายต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบและรัดกุมเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย..!??