SpaceX กับความท้าทายการลงทุน.!

นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ SpaceX กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญสุดของโลกการลงทุนทศวรรษนี้ เมื่อบริษัทอวกาศของ Elon Musk ส่งสัญญาณชัดว่า กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ที่อาจเกิดขึ้นเร็วช่วงต้นปีหน้า


การนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ SpaceX กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญสุดของโลกการลงทุนทศวรรษนี้ เมื่อบริษัทอวกาศของ Elon Musk ส่งสัญญาณชัดว่า กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ที่อาจเกิดขึ้นเร็วช่วงต้นปีหน้า ด้วยมูลค่ากิจการสูงถึง 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 26 ล้านล้านบาท

สัญญาณดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง SpaceX แจ้งพนักงานถึงแผนการรับซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้น มูลค่ารวม 2,560 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราคาหุ้นละ 421 ดอลลาร์สหรัฐ) สูงกว่าการประเมินครั้งก่อนเกือบ 2 เท่า การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงทำให้ SpaceX กลายเป็นบริษัทเอกชนที่มีมูลค่าสูงกว่า OpenAI แต่เป็นการตอกย้ำว่า “ตลาดทุน” อาจเป็นก้าวต่อไปของบริษัท ที่กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานนอกโลก

“เบรต จอห์นเซน” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ SpaceX ระบุว่าแม้การขายหุ้น IPO จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่หากบริษัทดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยมและสภาพตลาดเอื้ออำนวย การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยให้ SpaceX ระดมทุนได้จำนวนมหาศาลและจำเป็นต่อแผนระยะยาว ตั้งแต่การพัฒนายาน Starship จนถึงแนวคิดการตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ในอวกาศและบนดวงจันทร์

หาก IPO เกิดขึ้นจริง SpaceX จะไม่ใช่แค่หนึ่งในหุ้นที่เข้าตลาดที่ใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ แต่เป็นการทดสอบว่า นักลงทุนพร้อมจะ “ซื้อความฝัน” ด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ SpaceX ถือเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยการวิจัยและพัฒนาเป็นหลัก และทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐกับโครงการที่มีความเสี่ยงสูงและใช้เวลานาน ทำให้นักวิเคราะห์บางส่วนกังวลว่า นักลงทุนในตลาดหุ้นอาจไม่อดทนเท่ากับนักลงทุนเอกชน โดยเฉพาะหาก SpaceX ไม่โฟกัสการขยายธุรกิจ Starlink ที่เป็นแหล่งรายได้หลัก

จากบทเรียนจาก Tesla เมื่อครั้งหนึ่งราคาหุ้นร่วงหนัก หลัง Elon Musk นิยาม Tesla ว่า ไม่ใช่บริษัทรถยนต์แต่เป็นแพลตฟอร์มหุ่นยนต์และ AI สะท้อนให้เห็นว่า “เรื่องเล่า” ของบริษัทมีผลต่อความเชื่อมั่นเพียงใด..!!

แม้ว่าโครงการอวกาศ จะมีความไม่แน่นอนสูง แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายเชื่อว่า ตลาดจะยอมรับความล้มเหลวได้ หาก SpaceX มีรายได้มหาศาลจาก Starlink ที่ถูกมองว่าเป็นตัวสร้างรายได้หลักระยะยาว

อย่างไรก็ตามคำถามสำคัญยังอยู่ที่การประเมินมูลค่าปัจจุบัน SpaceX คาดการณ์รายได้ต่อปีประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ขนาดตลาดอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมยังไม่มีความชัดเจนและแนวคิดล้ำอนาคตอย่างดาต้าเซ็นเตอร์ในอวกาศ ยังเผชิญข้อจำกัดด้านต้นทุน การระบายความร้อนและปัญหาขยะอวกาศ

มุมมองจาก Shay Boloor หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดจาก Futurum Equities Research นักลงทุนอาจต้องอดทนกับความผันผวนของ SpaceX ไม่ต่างจากที่เคยอดทนกับ Tesla มาก่อน เพราะการลงทุนใน SpaceX ไม่ใช่เป็นการซื้อผลประกอบการระยะสั้น แต่คือการเดิมพันกับโครงสร้างเศรษฐกิจนอกโลกในอนาคต

สุดท้ายแล้ว IPO ของ SpaceX ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราคาเหมาะสมหรือไม่อย่างไร แต่โจทย์ใหญ่คือนักลงทุนพร้อมแค่ไหนที่จะลงทุนในบริษัท ที่มีเป้าหมายไม่ได้หยุดอยู่แค่โลกใบนี้..!!?

Back to top button