
สังคมข่าวหุ้น
หลังจากวันก่อนหน้านี้ดัชนีหุ้นไทยบวกแรงกว่า 32 จุด ส่วนวานนี้มีแรงขายทำกำไรออกมา ดัชนีวูบลงไป 13-14 จุด เช่นเดียวกับมูลค่าการซื้อขายที่ลดลงมาเหลือ 4.2 หมื่นล้านบาท
หลังจากวันก่อนหน้านี้ดัชนีหุ้นไทยบวกแรงกว่า 32 จุด ส่วนวานนี้มีแรงขายทำกำไรออกมา ดัชนีวูบลงไป 13-14 จุด เช่นเดียวกับมูลค่าการซื้อขายที่ลดลงมาเหลือ 4.2 หมื่นล้านบาท ส่วนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 3 พันล้านบาท หลังวันก่อนหน้าซื้อไป 4.5 พันล้านบาท
ต้องเข้าใจก่อนว่าที่ดัชนีขึ้นมาวันก่อนหน้านี้นั้น มาจากเซนติเมนต์บวกเกี่ยวกับข่าวเรื่องสหรัฐฯ กับจีน จะหารือกันในปลายสัปดาห์นี้ บวกกับจีนเองออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย แต่นับจากนี้ ตลาดน่าจะรอความชัดเจน ความคืบหน้าในการหารือของ 2 ประเทศมหาอำนาจว่าจะออกมาอย่างไร ทำให้ดัชนีช่วงนี้จะแกว่งในกรอบแคบไปก่อน แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมองว่า ดัชนีไม่น่าจะกลับไปหลุด 1,200 จุดอีกครั้ง
กำหนดการรับสมัครผู้ว่าการแบงก์ชาติออกมาแล้ว เริ่ม 13 พ.ค.-4 มิ.ย.นี้ และกระบวนการทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จในวันที่ 2 ก.ค. 2568 แต่ที่ต้องจับตาคือ “แคนดิเดต” ของบุคคลที่จะมาเป็นนั้นมีใครกันบ้าง ซึ่งล่าสุด มีถึง 5-6 รายชื่อที่คาดว่าจะลงสมัคร แต่หากนำมาพิจารณาดูแล้ว ตัวเต็งน่าจะมีอยู่แค่ 2 คน (พิจารณาจากรายชื่อ) โดยหนึ่งในสองคนนั้นคือ “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” อธิบดีกรมธนารักษ์ แต่ประเด็นที่ต้องติดตามคือ หาก เอกนิติ จะลงสมัครจริง ๆ ก็จะต้องลาออกจากราชการก่อน
กัลฟ์ฯ แจ้งงบงวดไตรมาส 1/2568 ออกมา ดูตอนแรกจะงง ๆ เล็กน้อย เพราะโชว์งบของ “อินทัช” ก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4 พันล้านบาท ส่วนของกัลฟ์ มีกำไร 6.6 พันล้านบาท แต่พอนำมารวมกันที่เป็นงบของกัลฟ์ (GULF) หลังการควบรวม จะมีกำไรอยู่เกือบ 5.4 พันล้านบาท แต่ถือว่ามากกว่าตลาดคาดการณ์กันไว้ว่าจะมีกำไรประมาณ 5.1 พันล้านบาท ส่วนราคาหุ้นของกัลฟ์ฯ วานนี้ขึ้นไปได้ถึง 50.50 บาท แต่ยืนเหนือ 50 บาทไม่ได้ ลงมาปิด 49.25 บาท สรุป ยังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญที่ 50 บาท ส่วนวันนี้ต้องลุ้นกันต่อว่าจะผ่านได้ไหม ซึ่งคงต้องอาศัย “แรงยก” ของผู้ดูแลสภาพคล่องนั่นแหละ
บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น TRUE ราคาหุ้นเริ่มทรง ๆ แล้ว หลังขึ้นต่อเนื่องมา 5 วันติดต่อกัน ส่วนวานนี้ ปรับลงเล็กน้อย -0.10 บาท มาปิดที่ 12.50 บาท ด้านแนวโน้มกำไรเห็นถูกคาดว่าจะมีกำไรกว่า 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 360% จากงวดเดียวกันปีก่อน สมมติว่าหากกำไรออกมาตามนี้จริง มีความเป็นไปได้ว่า หุ้นอาจจะถูกขายทำกำไรก็ได้ เพราะขึ้นมาชนแนวต้านละ
ธนาคารกรุงเทพ BBL นำร่องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินฝาก มีผลตั้งแต่วานนี้ (8 พ.ค.) โดยอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลดลงมาที่ 6.75% หรือลดลง 0.075% จากเดิมที่ 6.75%, อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับลดลงมาที่ 7% หรือลดลง 0.10% จากเดิม 7.10% และอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับลดลงมาที่ 6.90% หรือลดลง 0.05% จาก 6.95% ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ลดดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3-36 เดือน ระหว่าง 0.15-0.30%
บล.บียอนด์ หรือ BYD โดยสายงานที่ปรึกษาการลงทุนและความมั่งคั่ง (IWC) จัดสัมมนา “เทคนิคสร้างผลกำไรด้วยระบบ ViVi Investing” โดยอาจารย์เอ พิสุทธิ์ และ “ทริคการลงทุน DR ใน 10 ทศเทพหุ้นจีน” โดยอาจารย์ต๋อม ทรงศักดิ์ นับเป็นครั้งแรกกับการผสานความรู้ Value Investing และ Technical Trading เจาะลึกทั้ง หุ้นไทย และ DR หุ้นจีน โดยเฉพาะ 10 ทศเทพหุ้นจีน ที่ต้องรู้ ก่อนเทรนด์ใหญ่จะมา งานนี้ “ฟรี” ไม่มีค่าใช้จ่าย ใครสนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ลิงก์นี้ https://lin.ee/alAOx4d
คาเฟอีน