CGSI มอง SET “ไซด์เวย์” 1,180-1,230 จุด แนะลงทุน CPALL-MINT เด่น

CGSI มอง SET “ไซด์เวย์ดาวน์” กรอบ 1,050-1,080 จุด รอความคืบหน้าการค้าสหรัฐ–ไทย แนะลงทุน CPALL กำไรโตแรง–ซื้อหุ้นคืนหนุนขาขึ้น ด้าน MINT มูลค่าน่าสนใจหลังราคาปรับฐาน


บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (14 พ.ค.68) คาดว่า SET Index จะแกว่ง Sideway ยังคงให้กรอบบริเวณ 1,180-1,230 จุด โดย เรามองว่าตลาดหุ้นไทยรับรู้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐ-จีนบรรลุข้อตกลงทางการค้าไปพอสมควรแล้ว หลังปรับตัวบวกและเผชิญแรงขายเมื่อวานที่ผ่านมา ดังนั้น Upside จากประเด็นนี้จึงจำกัดในความเห็นของเรา เพื่อรอความคืบหน้าใหม่เพิ่มเติม ซึ่งสำหรับไทยนั้น ยังรอการตอบกลับอย่างเป็นทางการจากสหรัฐหลังรัฐบาลไทยได้จัดทำข้อเสนอส่งให้เรียบร้อยแล้ว

ดังนั้น ในช่วงนี้มองว่าตลาดน่าจะให้น้ำหนัก Selective Buy ตามปัจจัยบวกเฉพาะตัวและรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/685 ที่เข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของการประกาศรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/68

โดย HANA รายงานกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 253 ล้านบาท (-28% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +2,231% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) สูงกว่าที่เราและตลาดคาด 53%/ 166% จากผลขาดทุนจากธุรกิจใหม่ที่น้อยกว่าคาด, GPM ที่ดีกว่าคาดและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าคาด โดย HANA จะมี Analyst Meeting วันที่ 16 พ.ค.

ส่วน PTTGC รายงานขาดทุนสุทธิ 2,556 ล้านบาท (vs. -11,700 ล้านบาท ใน 4Q24) จากการกลับรายการด้อยค่าของ Vencorex แม้ว่า EBITDA ของโอเลฟินและโพลีโอเลฟินจะดีขึ้น แต่การขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานปกติยังมากกว่าที่เราและตลาดคาด เนื่องมาจากธุรกิจอะโรเมติกส์และเคมีภัณฑ์

ด้านSPALI รายงานกำไรสุทธิที่ 404.8 ล้านบาท (-79.6% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, -34% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด จากรายได้อื่นที่ต่ำกว่าคาด

หุ้นแนะนำ

CPALL : รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/68ที่แข็งแกร่งที่ 7.6 พันล้านบาท (+20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +6% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ดีกว่าที่เราและตลาดคาด เนื่องจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นทำนิวไฮและการควบคุม SG&A รวมถึงแรงส่วนแบ่งกำไรจาก CPAXT นอกจากนี้ เรามองว่าราคาหุ้นมีแรงหนุนจากการประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงิน 7,500 ล้านบาท ไม่เกิน 150 ล้านหุ้น (16 พ.ค.-14 พ.ย. 25)(Take profit : 52.75 / Stop loss : 50.25)

MINT : รายงานกำไรสุทธิ 417 ล้านบาท (-64% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -89% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ในไตรมาส 1/68ต่ำกว่าที่เราคาด จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร แต่ดีกว่าตลาดคาด ซึ่งโดยปกติจะเป็นไตรมาสที่อ่อนแอสุดสำหรับโรงแรมของ MINT ในยุโรป

ทั้งนี้ เรามองว่าการประเมินมูลค่า MINT ยังน่าสนใจ และราคาหุ้นได้สะท้อนความกังวลเศรษฐกิจอ่อนแอไปแล้ว อีกทั้ง เราเชื่อว่า MINT มีจะได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับโรงแรมอื่น(Take profit : 26.25 / Stop loss : 24.80)

Back to top button