
พาราสาวะถี
จับอาการ แพทองธาร ชินวัตร แถลงหลังประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกี่ยวกับข่าวยุบสภา และความสัมพันธ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาล
จับอาการ แพทองธาร ชินวัตร แถลงหลังประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกี่ยวกับข่าวยุบสภา และความสัมพันธ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาล เสียงหัวเราะและอารมณ์ที่แช่มชื่น อาจเป็นคำตอบว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ ซึ่งสามารถมองได้หลายมุม ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะภาวะนิติสงครามที่เกิดขึ้นทั้งกรณีชั้น 14 ปมฮั้วเลือก สว. แม้กระทั่งข่าวพรรคภูมิใจไทยขู่คว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 จนนำไปสู่การยุบสภา ล้วนแต่เป็นปัจจัยการโหมกระพือข่าว เพื่อเสี้ยมให้เกิดความแตกแยกจนนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง
ขณะที่ความเป็นจริงไม่ว่าจะจากดีลพิเศษ หรือเงื่อนไขผูกมัดตามมาก็ดี เป็นเหตุให้รัฐบาลพลิกขั้วไม่สามารถแยกจากกันได้ ยังมีเรื่องแรงกดดันที่พรรคสีน้ำเงินเคยเบ่งกล้ามโชว์มาตลอด พอมีประเด็น กกต.รับลูกเรียก สว.ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยไปสอบกว่า 50 คน ทำให้อาการกร่างที่เคยมีก่อนหน้าแทบจะหายไปในทันที คู่ขนานมากับข่าวพรรคเนื้อหอมอย่างกล้าธรรม ภายใต้การนำของ ธรรมนัส พรหมเผ่า แสดงพลังดูดทั้งคนที่มีหัวโขน สส.ซีกฝ่ายค้าน และระดับแกนนำมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก
นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่า เสถียรภาพของรัฐบาลต่อให้ไม่มีภูมิใจไทยร่วมด้วยก็ยังแข็งแรง ไม่ใช่แค่พวกที่แสดงตัวชัดเจนว่าเลือกข้าง ยังมีบรรดาอีแอบอีกจำนวนหนึ่งที่ยังคงมีหัวโขนความเป็น สส.ของพรรคในซีกฝ่ายค้าน แต่บทบาททางการเมืองเป็นที่รู้กันว่าคือเสียงสนับสนุนรัฐบาล ดังนั้น มันจึงทำให้แพทองธารกล้าที่จะยืนยันว่า ไม่ยุบสภา เช่นเดียวกับสัมพันธ์ภายในรัฐนาวาที่ยังคงแน่นปึ้ก ส่วนเรื่องอื่นที่ไม่ใช่การแสดงออกของคนใน ครม.หรือพรรคร่วม ก็ปล่อยให้เป็นปัญหาของคนวงนอกไปเท่านั้นเอง
แม้แต่ประเด็นความไม่ลงรอยกันของผู้มีอำนาจเหนือสองพรรคแกนนำรัฐบาลอย่าง ทักษิณ ชินวัตร กับ เนวิน ชิดชอบ ลูกสาวบิ๊กแม้วยังประกาศว่า อะไรจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องนอกระบบ แต่ในฐานะที่ตนเป็นนายกฯ มีอำนาจโดยตรง ปัญหาของรัฐบาลต้องแก้ไขในหมู่ผู้มีอำนาจตัดสินใจ จึงไม่ต้องจับมาเชื่อมโยงกันจนทำให้เกิดความขัดแย้ง ความเห็นต่างอย่าว่าแต่พรรคร่วมรัฐบาล แม้แต่พรรคเดียวกันเองยังคิดไม่เหมือนกัน จึงอยู่ที่ว่าเมื่อเกิดปัญหาแล้วต้องคุยกันหาข้อยุติให้ได้
ไม่เพียงแต่การโชว์พลังดูดของกล้าธรรมด้วยกำลังภายในแบบใจถึงของผู้กองมันคือแป้ง ที่ช่วยค้ำยันให้รัฐบาลมีเสถียรภาพเท่านั้น ความระส่ำของพรรคฝ่ายค้านก็เกิดขึ้นอยู่เป็นระลอก พรรคประชาชนผลจากการที่ กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 ประกาศแยกทางกับพรรค พร้อมกับเทปเสียงพูดคุยกับ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค เป็นการระบายความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกแบ่งพวก แถมชวนคนอื่นมาลงสมัคร สส.แทน ก็ทำให้เห็นว่าภายในพรรคสีส้มน่าจะมีกรณีแบบนี้ตามมาอีก
ทั้งที่อุตส่าห์รักษาเก้าอี้ สส.ของพรรคไว้ได้ครบหลังจากก้าวไกลถูกยุบพรรค ไม่มีพวกแตกแถว แต่กลายเป็นว่ายิ่งอยู่กันนานกลับเกิดการเขม่นกันเอง หรืออีกนัยหนึ่งอาจจะมีบางส่วนที่ได้รับข้อเสนอจนยากจะปฏิเสธ ทำให้ไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกับพรรคต่อไปโดยที่มองไม่เห็นอนาคต คนเหล่านี้แม้รู้ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้ามีโอกาสสอบตกมากกว่าได้รับเลือกตั้ง แต่ถือเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า วางมือไปครอบครัวและตัวเองไม่เดือดร้อนแน่นอน
ฟากพรรคของลุงคนบ้านในป่า แกนนำสำคัญทั้ง อุตตม สาวนายน และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ก็ได้ไขก๊อกเปิดตูดจากความเป็นสมาชิกพรรคไปเรียบร้อย ตามสูตรไม่ได้ทำการเมืองต่อแต่ขอไปลุยธุรกิจของตัวเอง สุดท้ายใครจะไปรู้ถ้ามีข้อเสนอทำเพื่อบ้านเมืองก็เป็นเหตุให้ตัดสินใจทำงานการเมืองได้อีก ซึ่งการถอยทัพแบบนี้ ย่อมเป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่า น่าจะมีการไหลออกของคนในพรรคสืบทอดอำนาจตามมาอีก อยู่ที่ว่าจะเป็นระดับแกนนำหรือ สส.เท่านั้นเอง
ไม่ต่างกันกับไทยสร้างไทยของ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หลังจากที่บรรดา สส.ส่วนใหญ่สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจด้วยการโหวตสวนมติพรรค ยกมือให้ฝ่ายรัฐบาลในหลายเรื่อง ล่าสุด นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ กับ “เก่ง” การุณ โหสกุล สองอดีต สส.และแกนนำพื้นที่ กทม.คนสำคัญ ได้ลาออกจากความเป็นสมาชิกพรรคไปเรียบร้อย แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเลื้อยลงรูกล้าธรรมชัวร์ ในทางการเมืองสถานการณ์แบบนี้มันทำให้เห็นว่า การเมืองฝั่งไหนที่มีเสถียรภาพมากกว่ากัน
จริงอยู่ว่าภาพของการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นตั้งแต่ระดับสมาชิกสภาเทศบาล ไปจนถึงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ชัยชนะของตัวแทนซีกรัฐบาลโดยเฉพาะคนของเพื่อไทย ไม่อาจนำไปเป็นสมมติฐานทางการเมืองภาพใหญ่ว่าเลือกตั้งทั่วไป พรรคนายใหญ่จะกลับมาครองความยิ่งใหญ่อีกคำรบ อย่างน้อยมันก็ทำให้พอใจชื้นได้ว่า แนวโน้มความชื่นชอบ คะแนนนิยมของคนที่เคยหันหลังให้ไปแล้วเริ่มจะกลับมา ถ้าผนวกเข้ากับผลงานของรัฐบาลที่หวังว่าจะดีขึ้นหลังจากนี้ ย่อมจุดประกายให้คนในเครือข่ายพร้อมที่จะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ และที่จะตามมาสมทบย่อมตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ปมการเจรจากับสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการขึ้นภาษี จากที่รัฐบาลถูกโจมตีก่อนหน้าหลังจากอีกฝ่ายเลื่อนการหารือออกไป พร้อมถูกค่อนขอดว่า ทางโน้นแจ้งมาหรือไทยขอเลื่อนเองเพราะไม่พร้อม ซึ่งแพทองธารไม่ได้ตอบโต้ในประเด็นนี้ และบอกว่าทุกอย่างต้องรอบคอบ ให้อยู่ในจุดที่เกิดประโยชน์กับประเทศมากที่สุด อังคารที่ผ่านมา สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมเวทีการลงทุน ซาอุดี-สหรัฐ ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ชื่นชมประเทศไทย
มีการเปิดเผยว่าก่อนที่สหรัฐฯ จะเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้ง ประเทศเหล่านี้ได้เข้าหารือด้วยข้อเสนอที่ดีมาก ไทยนำเสนอแนวคิดริเริ่มที่ยอดเยี่ยม แม้ภายใต้เสียงเยินยอดังกล่าวจะเป็นการเอาใจประเทศในเอเชีย เพราะรู้กันอยู่ว่าเป้าหมายหลักของลุงแซมอยู่ที่ทำสงครามการค้ากับจีน แต่อย่างน้อยก็เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่ามีโอกาสที่คณะเจรจาของไทยจะประสบความสำเร็จจากวงพูดคุย การไม่ผลีผลาม บุ่มบ่ามจึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ถ้าลงเอยเป็นบวกย่อมเติมคะแนนนิยมให้กับรัฐบาล แล้วแบบนี้จะยุบสภาไปเพื่ออะไร
อรชุน