
‘สหรัฐ’ เสี่ยงเศรษฐกิจชะงัก.!
เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย! เมื่อ Jamie Dimon CEO JP Morgan Chase & Co. ออกมาประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน
เรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย! เมื่อ Jamie Dimon CEO JP Morgan Chase & Co. ออกมาประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน พร้อมภาวะเงินเฟ้อสูง (Stagflation) เนื่องจากสหรัฐฯ เผชิญกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่มากมหาศาลจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์, การขาดดุลและแรงกดดันด้านราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้น
“ผมไม่เห็นด้วยว่าเราอยู่ในจุดที่ดี และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังทำสิ่งที่ถูกต้องในการรอคอย และดูสถานการณ์ ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน”
โดยเจ้าหน้าที่เฟดหลายคน แสดงจุดยืน “คงอัตราดอกเบี้ย” ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่มั่นคง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลายครั้งของรัฐบาล เช่น ภาษีศุลกากรและผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ ผู้กำหนดนโยบายการเงินระบุว่า พวกเขาเห็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น จากการเผชิญกับทั้งภาวะเงินเฟ้อและการว่างงานที่สูงขึ้น
ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ และจีน บรรลุตกลงปรับลดภาษีศุลกากรลงอย่างมากโดยทันที เป็นเวลา 90 วัน เพื่อหาข้อสรุปจากข้อตกลงครั้งใหม่ ที่คาดว่าจะเป็นการเจรจารอบใหม่ระหว่างรัฐบาลวอชิงตันและรัฐบาลปักกิ่ง ที่มีแนวโน้มว่าจะยากลำบาก นักวิเคราะห์และนักลงทุน ระบุว่า ภาษีศุลกากร ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เรียกเก็บจากจีน น่าจะคงอยู่ระดับที่คาดว่าจะทำให้การส่งออกของจีนลดลงอย่างรุนแรง หลังสิ้นสุดข้อตกลงระงับกำแพงภาษี 90 วัน
Jamie Dimon ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่น่าจะต้องการจะทิ้งจีน แต่หวังว่าจะมีการเจรจาหลายรอบและที่สุดท้ายจบลงด้วยสถานะที่ดี..
“การประกาศภาษีศุลกากรที่ปั่นป่วนของทรัมป์ และความพยายามที่จะลดขนาด หรือสั่งปิดหน่วยงานรัฐทั้งหลายได้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการค้า, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน และภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น บริษัททั้งหลายกำลังหยุดการขยายกิจการ รวมถึงการควบกิจการและการซื้อกิจการ ที่สร้างกำไรงามให้วาณิชธนากรในวอลล์สตรีท”
“เจพี มอร์แกน” มีการเปิดตัวศูนย์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ด้วยการวิจัยเกี่ยวกับรัสเซียและยูเครน, ตะวันออกกลางและการสร้างเสริมอาวุธยุทธภัณฑ์ทั่วโลกพร้อมระบุว่า “ความไม่แน่นอนจากนโยบายทรัมป์ อาจทำให้ลูกค้าทั้งหลายหยุดรอดูสถานการณ์ก่อน”
Troy Rohrbaugh ซีอีโอร่วมฝ่ายวาณิชธนกิจและด้านพาณิชย์เจพี มอร์แกน กล่าวว่า ค่าธรรมเนียมด้านวาณิชธนกิจของธนาคารอาจลดลงประมาณ 5% เมื่อเทียบปีที่แล้วและมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
“สหรัฐฯ ต้องจัดการกับปัญหาขาดดุล และเข้าใจว่าเหตุใดนักลงทุนทั้งหลาย อาจลดการลงทุนในสินทรัพย์สกุลดอลลาร์สหรัฐ”
ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำพรรครีพับลิกัน ในสภาผู้แทนราษฎร มีการเปิดเผยร่างกฎหมายภาษีและการใช้จ่ายฉบับใหม่ของทรัมป์ ที่มีการจำกัดการหักลดหย่อนภาษีของรัฐและท้องถิ่นสูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ เพื่อพยายามโน้มน้าวกลุ่มรีพับลิกัน ที่ขัดแย้งกันให้สนับสนุนกฎหมายดังกล่าว
ที่สำคัญ “พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ” มีแรงขายเพิ่มขึ้นเมื่อวันพุธโดยตราสารระยะยาว ได้รับผลกระทบหนักที่สุด และการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปีได้รับการตอบรับค่อนข้างไม่ดีนัก การเทขายช่วงหนึ่ง ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีเพิ่มขึ้นถึง 0.13% มาอยู่ที่เกือบ 5.10% เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2566 ทั้งนี้พันธบัตรรัฐบาล แทบไม่เปลี่ยนแปลงในการซื้อขายในตลาดเอเชียช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา