หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกตึงเครียดตะวันออกกลาง-จับตานโยบายภาษีทรัมป์

ตลาดหุ้นยุโรปวันอังคารปิดลบ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นหลายแห่งทั่วโลก ท่ามกลางความกังวลว่าสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรง ขณะที่นักลงทุนยังจับตาทิศทางนโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์


ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงในวันอังคาร (17 มิ.ย.68) ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังสถานการณ์ระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 5 กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน และลดความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง

  • ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 542.26 จุด ลดลง 4.65 จุด หรือ -0.85%
  • ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,683.73 จุด ลดลง 58.51 จุด หรือ -0.76%
  • ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 23,434.65 จุด ลดลง 264.47 จุด หรือ -1.12%
  • ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 8,834.03 จุด ลดลง 41.19 จุด หรือ -0.46%

ความวิตกทวีขึ้นหลังอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดหวั่นเกรงว่าเหตุการณ์อาจลุกลาม โดยเฉพาะหากเกิดการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญของโลก

แม้ยังไม่มีสัญญาณปัญหาอุปทานน้ำมันโดยตรง แต่ความไม่แน่นอนส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อย หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ปิดในแดนบวกเช่นกัน

ในทางกลับกัน หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงแรง โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ในยุโรปที่ดิ่งลงเฉลี่ย 2.3%

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังเฝ้ารอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันพุธนี้ ซึ่งคาดว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ขณะที่ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาล ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงกดดันบรรยากาศการลงทุน โดยมาตรการระงับภาษีหลายรายการมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้  หากไม่มีการขยายเวลาอาจส่งผลกระทบต่อการค้าโลก

Back to top button