จบสิ้นวิกฤติกลเกมหุ้น.!

ช่วงต้นสัปดาห์ก่อน เริ่มต้นด้วยปรากฏการณ์ “จันทร์ทมิฬ” กับ 4 หุ้น นั่นคือ KTC, XPG, TPS และ BEC ราคาหุ้นพากันดิ่งติดฟลอร์ 2 วันทำการติดต่อกัน..!!


ช่วงต้นสัปดาห์ก่อน เริ่มต้นด้วยปรากฏการณ์ “จันทร์ทมิฬ” กับ 4 หุ้น นั่นคือบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC, บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG และบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC ราคาหุ้นพากันดิ่งติดฟลอร์ 2 วันทำการติดต่อกัน..!!

เดชะบุญนะว่า 2 วันทำการที่ว่า..ตลท.มีการออกมาตรการชั่วคราว..ให้ปรับลดซิลลิ่ง-ฟลอร์มาที่ 15% (จากปกติซิลลิ่ง-ฟลอร์อยู่ที่ 30%)

เริ่มหุ้น KTC วันที่ 20 มิ.ย.ราคาปิดที่ 29.50 บาท ติดลบ 15.11% มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 76,060.86 ล้านบาท ถัดมาวันที่

24 มิ.ย.ราคาปิดที่ 25 บาท ติดลบ 15.25% มาร์เก็ตแคปอยู่ที่  64,458.35 ล้านบาท

นั่นเท่ากับว่า 2 วัน ราคาหุ้น KTC ลดลง 9.75 บาท มาร์เก็ตแคปหายไป 25,138 ล้านบาท (จากระดับ 89,597 ล้านบาท)

หุ้น XPG วันที่ 23 มิ.ย. ราคาปิดที่ 0.60 บาท ติดลบ 15.49% มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 6,420.11 ล้านบาท ถัดมาวันที่ 24 มิ.ย. ราคาปิดที่ 0.50 บาท ติดลบ 16.67% มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 5,350.10 ล้านบาท

นั่นเท่ากับว่า 2 วัน ราคาหุ้น XPG ลดลง 0.21 บาท มาร์เก็ตแคปหายไป 2,247 ล้านบาท (จาก 7,597 ล้านบาท)

หุ้น BEC วันที่ 23 มิ.ย.ราคาปิดที่ 3.14 บาท ติดลบ 15.30% มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 6,280.00 ล้านบาท ถัดมาวันที่ 24 มิ.ย.ราคาปิดที่ 2.63 บาท ติดลบ 15.48% มาร์เก็ตแคปอยู่ที่  5,240.00 ล้านบาท

นั่นเท่ากับว่า 2 วัน ราคาหุ้น BEC ลดลง 1.03 บาท มาร์เก็ตแคปหายไป 2,080 ล้านบาท (จาก 7,320 ล้านบาท)

หุ้น TPS วันที่ 23 มิ.ย.ปิดที่ 2.78 บาท ติดลบ 15.24% มารเก็ตแคปอยู่ที่ 1,1166 ล้านบาท ถัดมาวันที่ 24 มิ.ย. ราคาปิดที่ 2.38 บาท ติดลบ 14.39% มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 999 ล้านบาท

นั่นเท่ากับว่า 2 วัน ราคาหุ้น TPS ลดลง 0.90 บาท มาร์เก็ตแคปหายไป 378 ล้านบาท (จาก 1,376 ล้านบาท) 

การที่ 4 หุ้น ปรับตัวลงติดฟลอร์..ในห้วงเวลาเดียวกัน ถือเป็นเหตุการณ์ที่ “ไม่ปกติ” และไม่เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานโดยสิ้นเชิง..

แต่เป็นบาดแผลอันเกิดจาก “กลเกมหุ้น” ของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ว่าด้วยเรื่อง “ถูกบังคับขาย” หรือ Forced Sell จากผู้ถือหุ้นใหญ่..!!

แน่นอนว่าชื่อ “มงคล ประกิตชัยวัฒนา” ถูกหยิบจับขึ้นมาโยงกับปรากฏการณ์นี้ ในฐานะผู้ที่โดน Forced Sell ด้วยความที่ “มงคล” เป็นถือหุ้นใหญ่ KTC-XPG-BEC-TPS ปรากฏการณ์ Forced Sell จึงเป็นใครอื่นไปไม่ได้..!!

เอาล่ะมาถึงวันนี้ “วิกฤติกลเกมหุ้น” ได้ผ่านพ้นไปแล้ว..พิสูจน์ได้จาก “มงคล ประกิตชัยวัฒนา” มีการรายงานการจำหน่ายหุ้น KTC-XPG-BEC-TPS ที่มีจำนวนจำนวนมาก

สอดคล้องกับจำนวนหุ้นและมูลค่าการซื้อขายช่วง 2 วันอันตรายดังกล่าว

กลับมาที่ปัจจัยพื้นฐาน..ดูแล้ว KTC โดดเด่นสุดทั้งงบดุลและงบกำไรขาดทุนและมีสภาพคล่องสูง..ตามมาด้วย XPG ที่มีตัวเลขกำไรสม่ำเสมอและอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยประมาณ 20% แต่หุ้นมีสภาพคล่องต่ำ

ส่วน BEC และ TPS งบการเงินเฉลี่ยอาจพอดูดี..แต่ก็ไม่เด่นเท่าที่ควร..!??

เอาเถอะ…มาถึงวันนี้ KTC-XPG-TPS-BEC ได้จบสิ้น “วิกฤติกลเกมหุ้น” ไปแล้ว…

Back to top button