หุ้นยุโรปปิดลบ รับแรงขายกลุ่ม “อุตสาหกรรม-แบงก์” ท่ามกลางกังวลข้อตกลงภาษี “สหรัฐ-อียู”

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (1 ก.ค.68) จากแรงขายหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและธนาคาร ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มข้อตกลงภาษีระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพยุโรป (EU) ก่อนถึงเส้นตาย วันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ที่สหรัฐฯ อาจเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าหลายรายการ

โดย ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 540.25 จุด ลดลง 1.12 จุด หรือ -0.21% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,662.59 จุด ลดลง 3.32 จุด หรือ -0.04% ด้านดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 23,673.29 จุด ลดลง 236.32 จุด หรือ -0.99%  ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน สวนทาง ปิดที่ 8,785.33 จุด เพิ่มขึ้น 24.37 จุด หรือ +0.28%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วง 1.7% โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจกลาโหม เช่น Rheinmetall, Saab และ Leonardo ที่ร่วงมากกว่า 5% ขณะที่กลุ่มธนาคารลดลง 1.3% นำโดย Deutsche Bank ที่ปรับตัวลงถึง 3.6% ในทางกลับกัน หุ้น AstraZeneca พุ่งขึ้น 2.8% หลังมีรายงานว่า ผู้บริหารกำลังพิจารณาย้ายการจดทะเบียนหลักทรัพย์ไปยังตลาดหุ้นสหรัฐฯ

นักลงทุนยังจับตาความคืบหน้าร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มงบประมาณของรัฐบาลวอชิงตัน ซึ่งอาจผลักดันระดับหนี้สาธารณะให้เพิ่มขึ้นกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ และส่งแรงสั่นสะเทือนต่อเสถียรภาพทางการเงินทั่วโลก

ด้านอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนเดือนมิถุนายนปรับขึ้นแตะระดับ 2% ตามเป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่า ECB อาจชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม เพื่อรอดูผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่อาจกดดันเศรษฐกิจยุโรปในระยะต่อไป