MASTEC ปิดโรดโชว์ “กรุงเทพ” ชูจุดแข็งธุรกิจวิศวกรรม ขายไอพีโอ 79 ล้านหุ้น เทรด SET ปีนี้

MASTEC ปิดโรดโชว์กรุงเทพคึกคัก! ชูจุดแข็งธุรกิจวิศวกรรมอาคารครบวงจร ลุยขาย IPO ไม่เกิน 79 ล้านหุ้น เตรียมเทรด SET ปีนี้ มั่นใจโมเดลธุรกิจโตมั่นคง-จ่ายปันผลเด่น


ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า บริษัท แมสเทค ลิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTEC เดินสายนำเสนอข้อมูล (Roadshow) พบนักลงทุนทั้งหมด 10 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ ระหว่างวันที่ 10 มิถุนายนถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 เพื่อสร้างความเข้าใจถึงโมเดลการดำเนินธุรกิจและศักยภาพการเติบโตของ MASTEC ที่มีเป้าหมายเป็นผู้นำเสนอโซลูชั่นเทคโนโลยี ด้านวิศวกรรมของงานระบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนตั้งแต่วันแรกที่ไปจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568

ต่อเนื่องมาที่นครราชสีมา ขอนแก่น นครสวรรค์ เชียงใหม่ นครปฐม ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา และปิดท้ายที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 โดยคาดว่าจะสามารถนำหุ้น MASTEC เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในปี 2568

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า MASTEC มีศักยภาพการเติบโตที่ดีจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 25 ปี ในธุรกิจนำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อจำหน่าย และการให้บริการโซลูชั่นที่ครอบคลุม ตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล ผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม

โดยเป็นตัวแทนจำหน่าย ให้แก่ ซัพพลายเออร์ชั้นนำรวม 30 ราย และเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Distributor) จำนวน 6 แบรนด์ ได้แก่ FRESE, FIVALCO, CHANGDER, FIREGUARD, ECO-WATER/ENVIROSWIM และ BOCA

อีกทั้ง ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายทั่วไป (Non-Exclusive Distributor) รวม 24 แบรนด์ เช่น VIKING, REFLEX, NIHON SPINDLE, JOHNSON-CONTROLS และ TDT เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังจัดหาผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากซัพพลายเออร์รายอื่นอีกมากกว่า 150 แบรนด์ รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท ได้แก่ VALOR ผลิตภัณฑ์วาล์วที่ใช้ในระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล และ ZERO FIRE ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตู้ดับเพลิงงทำให้ MASTEC สามารถนำเสนอโซลูชั่นด้านวิศวกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในกลุ่มผู้รับเหมา กลุ่มเจ้าของโครงการ และกลุ่มร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่ายได้เป็นอย่างดี

นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า MASTEC เตรียมพร้อมจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 79 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 26.33 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลัง การเสนอขายหุ้นสามัญ

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อรองรับแผนรุกธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมสำหรับตลาดอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และเป็นเงินทุนสำหรับรองรับธุรกิจใน Synergy Products ของกลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัย รวมถึงขยายช่องทางการตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ

นายดุษฎี มีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTEC กล่าวว่า ขอบคุณนักลงทุนทั้ง 10 จังหวัด ที่ให้ความสนใจเข้าฟังข้อมูลและแผนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งบริษัทมุ่งเป็นผู้นำเสนอโซลูชั่นเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมของงานระบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้าโดยมีทีมวิศวกรและทีมผู้เชี่ยวชาญสำหรับการให้บริการตั้งแต่การทำความเข้าใจแบบวิศวกรรม ออกแบบระบบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัท จำหน่าย ศึกษา ตรวจสอบ ให้คำปรึกษา

เพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมทั้งด้านเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์ ข้อกำหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องงบประมาณโดยรวมของลูกค้า ครอบคลุมถึงให้บริการติดตั้ง ตรวจสอบ ซ่อมแซมและบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย

1.) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล ได้แก่ อุปกรณ์ประกอบระบบทำความเย็นขนาดใหญ่ด้วยน้ำ (Chiller) และทำความเย็นด้วยน้ำยา (Refrigerant), อุปกรณ์ประกอบระบบระบายความร้อนออกจากเครื่องทำความเย็นด้วยน้ำ (Water Cooled) ประกอบด้วย วาล์วเปิดปิดน้ำ (Manual Valve)

วาล์วควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ( 2way และ PICV Control Valve), เครื่องสูบน้ำเย็น (Chilled Water Pump) เพื่อสูบส่งน้ำเย็นเข้าสู่ระบบ,หอผึ่งน้ำ (Cooling Tower), ระบบบำบัดน้ำ (Water Treatment system) สำหรับน้ำเย็นและน้ำระบายความร้อนเพื่อให้ระบบปรับอากาศทำงานได้ประสิทธิภาพสูงสุด ท่อส่งลมเย็นพร้อมฉนวนกึ่งสำเร็จรูป (Pre-Insulated Duct: PID)

นอกจากนี้ ยังจำหน่ายท่อทองแดงเพื่อส่งจ่ายน้ำยาแอร์ในระบบปรับอากาศขนาดเล็กถึงขนาดกลาง และอุปกรณ์ประกอบระบบสุขาภิบาลในอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่ ประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำดี, เครื่องสูบน้ำระบบบำบัดน้ำเสีย, วาล์วเปิดปิด (Manual Valve), วาล์วควบคุมอัตโนมัติทั้งความดันและอัตราการไหล เป็นต้น

2.) กลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย ได้แก่ อุปกรณ์ประกอบระบบดับเพลิงอัตโนมัติด้วยน้ำทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่ปั๊มน้ำดับเพลิง (Fire Pump) เพื่อสูบน้ำเข้าระบบดับเพลิง, หัวกระจายน้ำดับเพลิง (Sprinkler), ตู้ดับเพลิงพร้อมทั้งวาล์วที่แจ้งสถานะความพร้อมของระบบดับเพลิงและแจ้งเตือนเพลิงไหม้ และอุปกรณ์ประกอบระบบป้องกันไฟลามในระบบโครงสร้างอาคารและพื้นที่ช่องเปิดเพื่อป้องกันไฟลุกลาม ประกอบด้วย ปูน Mortar กันไฟ, Silicone กันไฟ Composite sheet เป็นต้น

3.) กลุ่มผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานสิ่งแวดล้อม ได้แก่ อุปกรณ์ประกอบระบบบำบัดและฆ่าเชื้อโรคในน้ำสำหรับสระว่ายน้ำโดยไม่ใช้สารเคมีเพื่อทดแทนระบบคลอรีนหรือคลอรีนจากเครื่องเกลือ ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก NSF สหรัฐอเมริกา และ Cooling Tower ปลอดสารเคมีเพื่อกำจัดตะไคร่และเชื้อ legionellosis ที่ทำให้ปอดอักเสบเฉียบพลัน

อีกทั้ง ป้องกันการเกิดตระกรันรวมถึงกำจัดตระกรันที่มีอยู่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบปรับอากาศและลดการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน, อุปกรณ์ประกอบระบบกำจัดฟองอากาศและควบคุมความดันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ ช่วยลดการใช้พลังงานและสารเคมี

รวมถึงลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงรักษาและช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น, อุปกรณ์ประกอบระบบโซลาร์เซลล์ ประกอบไปด้วย แผ่น Solar Cell, Inverter, Mounting Equipment, PV Cable และ Battery เพื่อเป็นพลังงานทางเลือกปลอดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดค่าไฟสำหรับครัวเรือน อาคารพาณิชย์และโรงงานอุตสาหกรรม และอุปกรณ์ประกอบระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ที่มีมาตรฐานสูงพร้อมระบบ Web Application เพื่อการบริหารจัดการให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและรายงานสถานะการใช้งาน Real Time บน Platform Online

ต้องขอบคุณนักลงทุนทั้งหมด 10 จังหวัด สำหรับการตอบรับในการเข้ารับฟังข้อมูลและแผนการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งเราพร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET เพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมั่นใจว่าการนำเสนอข้อมูลครั้งนี้ จะทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจในโมเดลธุรกิจและศักยภาพการดำเนินธุรกิจในอนาคตได้มากขึ้น” นายดุษฎี กล่าว

นายดุษฎี กล่าวทิ้งท้ายว่า โดยสรุปแล้วบริษัทมีจุดแข็ง คือ การนำเสนอ “โซลูชัน” (Solution) แก่ลูกค้า ไม่ใช่เพียงแค่ขายสินค้าเท่านั้น เรามุ่งเน้นการให้ความรู้ แก้ปัญหา และดูแลลูกค้าครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง ไปจนถึงการส่งมอบโครงการอย่างสมบูรณ์แบบ ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่มากกว่าแค่การซื้อสินค้า แต่เป็นความร่วมมือระยะยาว ที่เกิดความไว้วางใจ และนำไปสู่การซื้อซ้ำในอนาคต

สินค้าทางวิศวกรรมหลายชนิดไม่ได้ตัดสินใจจาก “ราคา” เพียงอย่างเดียว แต่ลูกค้าให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ความน่าเชื่อถือของซัพพลายเออร์ และทีมงานที่พร้อมให้บริการหลังการขาย ซึ่งบริษัทตอบโจทย์เหล่านี้ครบถ้วน รวมไปถึง สินค้าของเรามีโอกาสขายได้ในทุกโครงการก่อสร้าง

แม้หลายคนอาจมองไม่เห็นว่าสินค้าของเราถูกติดตั้งอยู่ที่ใดในอาคาร เช่น บนหลังคา ห้องเครื่อง ห้องปั๊ม หรือในระบบต่าง ๆ ที่ไม่อยู่ในสายตา แต่จริง ๆ แล้วสินค้าของเรามีอยู่ในทุกโครงการ ไม่ว่าจะเป็น อาคารสูง โรงพยาบาล โรงเรียน ศูนย์ข้อมูล (Data Center) หรือโรงงานอุตสาหกรรม

ระบบปรับอากาศ สุขาภิบาล วาล์ว ปั๊ม และท่อลม เป็นสิ่งที่ “จำเป็น” และ “ขาดไม่ได้” ในทุกโครงการ ดังนั้น บริษัทจึงมีโอกาสขายสินค้าในทุกโครงการอย่างต่อเนื่อง ถือเป็น “โครงสร้างพื้นฐาน” ด้านวิศวกรรมที่ต้องมีเสมอ

อีกทั้งมีฐานลูกค้าแข็งแกร่ง และสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (Recurring Income) โดยลูกค้าหลักของเราคือกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่ทำงานเป็นโครงการต่อเนื่อง เมื่อจบโครงการหนึ่ง ก็จะเริ่มโครงการถัดไป ทำให้เกิดการ “ซื้อซ้ำ” อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เกิดจากความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการของเรา ซึ่งเมื่อความไว้วางใจเกิดขึ้น รายได้ก็จะเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอในลักษณะ Recurring Income ที่มั่นคงและต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เรายังมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่ขยายสู่กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure), Data Center และภาคอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน

สุดท้าย โมเดลธุรกิจตอบโจทย์ทั้งการเติบโตและการจ่ายปันผล เนื่องจากโมเดลนี้ช่วยให้เรามีทั้ง กระแสรายได้ที่มั่นคง (หุ้นปันผล) จากกลุ่มธุรกิจหลัก และมีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มสินค้าใหม่ (หุ้นเติบโต) ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองหาโอกาสทั้งในแง่ผลตอบแทนระยะสั้นและศักยภาพระยะยาว

Back to top button