ไก่เห็นตีนงู..เราเห็นอะไร

สถานการณ์ของตลาดหุ้นไม่มีอะไรน่ากังวลเหมือนก่อนหน้านี้ เพราะสถานการณ์หลายอย่างสุกงอมอย่างเต็มที่ จึงรอแค่ผลลัพธ์สุดท้ายจะออกมา “ดี” หรือ “แย่”


สถานการณ์ของตลาดหุ้นไม่มีอะไรน่ากังวลเหมือนก่อนหน้านี้ เพราะสถานการณ์หลายอย่างสุกงอมอย่างเต็มที่ จึงรอแค่ผลลัพธ์สุดท้ายจะออกมา “ดี” หรือ “แย่” กว่าที่คาดเท่านั้น! ผนวกกับตลาดหุ้นซึมซับข่าวในทางร้ายเป็นเวลานาน “โมนิก้า” เลยมั่นใจว่า ตลาดหุ้นไทยจะยืนเหนือระดับ 1,100 จุด ได้ต่อไป ซึ่งเป็นผลมาจาก PE และ Yield จูงใจให้นักลงทุนอยากเข้ามาเก็บหุ้นเข้าพอร์ตไงล่ะคะ

ประเด็นข้างต้นทำให้อีฉันมองการทรุดตัวของดัชนีลงมายืนที่ระดับ 1,119.94 จุด ลบไป 7.27 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.77 หมื่นล้านบาท ไม่ใช่เรื่องที่ต้องซีเรียสเหมือนเมื่อก่อน เพราะเป็นแรงขายที่เกิดขึ้นหลังจากดัชนีขึ้น 45 จุด ผนวกกับตลาดหุ้นไทยกำลังรอลุ้นผลเทรดวอร์ของไทยจะโดนเก็บเท่ากับเวียดนามที่ 20% ไหม? จึงกลายเป็นจังหวะของขาลุยที่มีความเชื่อมั่นว่า ทุกอย่างจะออกมาอย่างราบรื่นก็เท่านั้นเองจ้า!

ส่วนเรื่องการเมืองในประเทศก็ไม่มีอะไรที่เป็นประเด็นต้องกังวล เพราะทุกคนมองข้ามช็อตไปถึงการเลือกตั้งใหม่กันหมดแล้ว! เดี๊ยนเลยไม่สนใจลมปากเพื่อไทยที่พ่นอะไรออกมาในแต่ละวัน แถมหน้าตา “ครม.ใหม่” ของรัฐบาลชุดนี้ก็มีแต่คนร้องยี้ (เอาลูกเอาหลานของพรรคพวกมานั่งในกระทรวงต่าง ๆ ทั้งที่ไม่เคยเห็นความสามารถสักอย่าง) “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่โดนฝ่ายค้านโขยก “เช้า สาย บ่าย เย็น” เพราะรัฐบาลชุดนี้ทำเพื่อนาย ไม่ได้ทำเพื่อประชาชน..แมงลือกล่าวไว้..อิอิอิ

เหมือนกับแต่งตั้งกรรมการใหม่ที่เข้ามาช่วยงานบริหารของ ตลท. ก็มีเสียงบ่นอุบกันเป็นแถวว่า ช่วยงานได้เหรอ? เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยในตอนนี้คือ หุ้นน้องใหม่เข้าตลาดหุ้นน้อยลงเรื่อย ๆ จนล่าสุดเหลือหุ้นที่จะเข้าตลาดหุ้นเพียง 6 ราย ทั้งที่มีการตั้งเป้าในแต่ละปีจะดันให้ได้ 40 ราย มันสะท้อนให้เห็นกลไกของตลาดทุนหลายอย่างกำลังมีปัญหา และต้องมีการแก้ไขด่วนนะจ๊ะ

ที่น่าสนใจคือ กระบวนการดังกล่าวมีใครเห็นบ้าง? คำตอบคือ แบะ..แบะ..แบะ กันเป็นแถว แถมคนที่ทำงานทุกวันนี้ก็เตรียมเกษียณกันเป็นแถว เลยประคองตัวให้ผ่านไปวัน ๆ “โมนิก้า” จึงขอเท้าความหลังในสมัยที่ “เฮีย.ช” เป็นหัวหมู่ลุยสร้างความมั่นใจให้กับทุกภาคส่วน โดยยุคนั้นมีการประสานความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ก.ล.ต. บลจ. บล. บมจ. และ ที่ปรึกษาการเงิน ซึ่งเป็นการลงพื้นที่จริง ๆ และช่วยหาทางออก..ไม่ใช่นั่งอยู่บนหอคอยงาช้างอย่างวันนี้

เมื่อทุกภาคส่วนช่วยกันอย่างเต็มที่ และปฏิบัติตามกฎระเบียบกันอย่างเรียบร้อย ความเชื่อมั่นที่มีต่อตลาดหุ้นไทย และหุ้นน้องใหม่ไอพีโอก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จนทำให้ช่วงหนึ่งตลาดหุ้นไทยแซงหน้าตลาดหุ้นสิงคโปร์ ทั้งในแง่ของหุ้นไอพีโอ และวอลุ่มเทรด ขณะเดียวกันยังมีการซัพพอร์ตบทวิเคราะห์เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์หุ้นกลางเล็ก ให้เป็นทางเลือกใหม่ ๆ แก่กับนักลงทุนแบบนี้..คนในวงการต่างรู้ดีคนพัฒนาเรื่องนี้..ใครเป็นคนทำ! นะจ๊ะ

ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงสงสัยในความคิดของกรรมการคัดเลือกใช้เกณฑ์อะไรมาพิจารณา เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า ต้องการคนเก๋าเกมตลาดหุ้น และเคยบิ้วดีมานด์จนเฟื่องฟูมาทำงานในตอนนี้ ขณะที่ 2 คนใหม่ที่เข้ามารับตำแหน่งก็รู้ ๆ กันอยู่ว่า มือที่มองไม่เห็นคนไหนส่งมา? และการทำงานจะเป็นแบบเหยียบขี้ไม่ฝ่อหรือเปล่า?..ก็ต้องดูกันต่อไป!..อย่าให้เดี๊ยนเซดเลยว่า แต่ละคนเป็นอย่างไรนะจ๊ะ

ส่วนตัวอีฉันรู้ดีว่า “เฮีย.ช” เป็นคนที่ทำงานทุ่มเทให้กับตลาดหุ้นเยอะมาก ผนวกกับ บมจ. ก็อยากให้เฮียกลับมาช่วยฟื้นความเชื่อมั่น..แล้วเหตุไฉนเฮียถึงถูกเขี่ยตกไปซะงั้น!..เมื่อซาวด์เสียงจากเพื่อนฝูงที่ทำงาน และคนเก่าของตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็พูดไปในทางเดียวกันว่า อยากให้เฮียมาเป็นบอร์ดตลาดฯ..งานนี้ใครจะเห็นต่างกับ “โมนิก้า” ก็ช่างหัวปะไร! เพราะเดี๊ยนพูดจากสิ่งที่เป็นรูปธรรมจริง ๆ ไม่ได้จินตนาการลอย ๆ..ไม่เชื่อลองถาม “เจ๊พรอนงค์” ดูซิคะ

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button