ครม. เคาะรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เริ่ม 1 ต.ค. นี้ ลงทะเบียนผ่านแอป “ทางรัฐ”

ครม. เคาะมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เริ่ม 1 ต.ค. นี้ ครอบคลุม 13 เส้นทางในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล เปิดลงทะเบียนผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” เดือน ส.ค.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ก.ค.68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกสาย ไม่เกิน 20 บาทตลอดสาย ตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล

มาตรการดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ครอบคลุมโครงข่ายรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 13 เส้นทาง รวมระยะทาง 279.84 กิโลเมตร ครอบคลุม 194 สถานี โดยประชาชนจะต้องลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้

ทั้งนี้เนื่องด้วยผู้ให้บริการรถไฟฟ้าในปัจจุบันมีรูปแบบสัญญาสัมปทานและสัญญาจ้างเดินรถที่มีข้อกำหนดหรือเงื่อนไขทางธุรกิจแตกต่างกัน จึงได้กำหนดให้ประชาชนลงทะเบียนตามเงื่อนไขที่กำหนดบนแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ”

โดยเงื่อนไขการลงทะเบียนนั้นเพื่อยืนยันตัวบุคคลที่มีสัญชาติไทยเท่านั้นด้วยหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เพื่อใช้งานผ่านบัตร EMV Contactless เช่น บัตรเครดิต/เดบิต Visa หรือ Mastercard และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่เคยลงทะเบียนไว้)

ระบบจะเปิดให้ใช้งานอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป โดยในอนาคตเตรียมเปิดระบบสแกน QR Code ผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ผู้โดยสาร

เงื่อนไขบัตรโดยสารที่ร่วมโครงการ ดังนี้ Rabbit Card ใช้ได้กับสายสีเขียว, สีทอง, สีเหลือง, สีชมพู EMV Contactless ใช้ได้กับสายสีแดง, สีน้ำเงิน, สีม่วง, สีชมพู, สีเหลือง และแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL) ยังไม่ครอบคลุมสายสีทองและสีเขียว

ด้านแนวทางการชดเชยรายได้จากค่าโดยสาร จะใช้งบจากกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม หรือแหล่งเงินที่เหมาะสม พร้อมประเมินผลประโยชน์จากมาตรการในระยะ 1 ปี ครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านเศรษฐกิจ ลดค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว 2. ด้านสังคม ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เพิ่มคุณภาพชีวิต และ 3. ด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณรวมได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า มาตรการนี้จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น ลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน แก้ปัญหาจราจร เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง และสนับสนุนระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน

Back to top button