
“หอการค้า” จ่อส่งข้อมูลผลกระทบ “ภาษีทรัมป์” ถึงคลัง ย้ำมีโอกาสลดต่ำกว่า 36%
หอการค้าไทย รวมข้อมูลผลกระทบภาคเอกชน ส่งกระทรวงการคลัง มุ่งช่วยรัฐวางมาตรการเยียวยา ชี้ไทยยังมีโอกาสเจรจาลดภาษีจาก 36% ตามกำหนด 1 ส.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงาน นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้ภาคเอกชนส่งรายละเอียดผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีสหรัฐ ภายในวันที่ 11 ก.ค. 68 ซึ่งภาคเอกชนมั่นใจว่าจะสามารถส่งข้อมูลได้ทันตามกำหนด
นายพจน์ กล่าวว่า ภาคเอกชน ได้ประเมินผลกระทบของอัตราภาษีในระดับต่างๆ เช่น 20%, 25% และ 36% ต่อผู้ประกอบการในแต่ละอุตสาหกรรมอย่างละเอียด เพื่อให้เห็นภาพผลกระทบที่ชัดเจน
รวมทั้งช่วยให้ภาครัฐสามารถเตรียมมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบได้อย่างเหมาะสม อีกทั้ง เชื่อว่าไทยยังมีเวลาพอในการเจรจาจนถึงวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งเป็นกำหนดเวลาที่สหรัฐฯ กำหนดไว้
ขณะนี้ ภาคเอกชนอยู่ระหว่างจัดเตรียมข้อมูลทั้งหมดเพื่อส่งให้ กระทรวงการคลัง โดยจะเน้นสำรวจสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบสูงเป็นลำดับแรก เช่น ภาคการเกษตร ซึ่งต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม รูปแบบของมาตรการที่จะส่งผลบวกสูงสุดยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอย่างรอบคอบต่อไป
ด้าน นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและนายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย กล่าวเสริมว่า การเจรจาครั้งนี้มีลักษณะคล้ายกับ การเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศคู่ค้า มุ่งเน้นการกำหนดรูปแบบการค้าร่วมกันและเกณฑ์การนับสัดส่วนการผลิตในประเทศเพื่อป้องกันสินค้าสวมสิทธิที่สหรัฐกังวล โดยทั่วไปจะใช้เกณฑ์ว่าอย่างน้อย 40% ของวัตถุดิบต้องมาจากประเทศไทย ซึ่งทำให้ภาคเอกชนต้องตรวจสอบสินค้าแต่ละประเภทในกลุ่มตนเอง เพื่อประเมินกระบวนการผลิตและสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศอย่างละเอียด
“ตอนนี้ ยังมีโอกาสที่ไทยจะเจรจากับสหรัฐเพื่อลดกำแพงภาษีจากที่ประกาศไว้ที่ 36% ได้ เพราะทีมไทยแลนด์ได้ไปเจรจากับสหรัฐในวันที่ 2-3 ก.ค. ก่อนที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะลงนามตอบกลับในวันที่ 4 ก.ค. หลังจากที่ทีมไทยแลนด์กลับมา จึงได้รับการบ้านจากสหรัฐว่ามีข้อเสนอเพิ่มเติมที่จะเจรจาหรือไม่” นายวิศิษฐ์ กล่าว