“เงินบาท” เปิดแข็งค่า 32.44 บ. จับตาภาษีทรัมป์-ฟันด์โฟลว์ต่างชาติ

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้าวันนี้ (14 ก.ค.) เปิดตลาดที่ระดับ 32.44 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 32.52 บาทต่อดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป (EU) และเม็กซิโก ในอัตรา 30% โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป รวมถึงมีข้อเสนอเรียกเก็บภาษีในอัตราใหม่ 15%-20% จากเดิมที่อยู่ที่ 10% กับประเทศต่าง ๆ เพิ่มเติม ซึ่งสะท้อนถึงการยกระดับมาตรการปกป้องทางการค้า

อย่างไรก็ดี แม้ว่าตลาดการเงินจะตอบรับต่อประกาศดังกล่าวค่อนข้างสงบมากกว่าการเทขายในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ภาพรวมการซื้อขายยังคงอยู่ภายใต้บรรยากาศที่เปราะบาง ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านการค้าทั่วโลก และความกังวลเกี่ยวกับความชัดเจนของเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคมนี้

นอกจากปัจจัยด้านภาษีแล้ว ค่าเงินดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ รวมถึงรายงานการประชุมล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ลดความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางค่าเงินบาท ได้แก่ ความเคลื่อนไหวของมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้า (รวมถึงไทย) ทิศทางฟันด์โฟลว์จากนักลงทุนต่างชาติ และแนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลก โดยข้อมูลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พบว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยมูลค่า 2,563 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยมูลค่า 2,187 ล้านบาท

โดย TTB ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.30 – 32.60 บาทต่อดอลลาร์ พร้อมแนะนำกลยุทธ์ซื้อเมื่ออ่อนค่าที่ระดับ 32.30 และขายเมื่อแข็งค่าที่ระดับ 32.60 บาท นอกจากนี้ยังประเมินกรอบและกลยุทธ์ค่าเงินอื่น ๆ ดังนี้:

EUR/THB อยู่ในกรอบ 37.65 – 38.15 บาท แนะนำ ซื้อที่ 37.65 / ขายที่ 38.15

JPY/THB อยู่ในกรอบ 0.2180 – 0.2220 บาท แนะนำ ซื้อที่ 0.2180 / ขายที่ 0.2220

GBP/THB อยู่ในกรอบ 43.60 – 44.00 บาท

AUD/THB อยู่ในกรอบ 21.15 – 21.55 บาท