
จับตาอนาคตพลังงาน! หลังข้อตกลงนิวเคลียร์ “ไทย-สหรัฐ” มีผลแล้ว จ่อรับเทคโนโลยีขั้นสูง
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือเกี่ยวกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์โดยสันติ ระหว่างสหรัฐฯ-ไทย มีผลบังคับใช้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา เผยแพร่แถลงการณ์ ที่มีสาระสำคัญระบุว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือเกี่ยวกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์โดยสันติ หรือที่เรียกว่า “ข้อตกลง 123 (123 Agreement)” ระหว่างสหรัฐอเมริกาและราชอาณาจักรไทย ได้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
โดยเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนคำสั่งฝ่ายบริหาร E.O. 14299 ว่าด้วยการนำเทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขั้นสูงมาประยุกต์ใช้เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ และยืนยันถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงในการเดินหน้ายุทธศาสตร์ตามวัตถุประสงค์ของประธานาธิบดี
ผลบังคับใช้ของ “ข้อตกลง 123” ถือเป็นการวางกรอบความร่วมมือที่ครอบคลุมสำหรับการใช้นิวเคลียร์โดยสันติระหว่างไทยและสหรัฐฯ โดยเน้นย้ำเจตนารมณ์ร่วมกันในการป้องกันการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และเอื้ออำนวยให้เกิดการถ่ายโอนวัสดุ อุปกรณ์ รวมถึงเครื่องปฏิกรณ์ ส่วนประกอบ ตลอดจนข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับการวิจัย และการผลิตพลังงานนิวเคลียร์พลเรือน
พลังงานนิวเคลียร์พลเรือน มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้วยการจัดหาพลังงานที่มีเสถียรภาพ และสามารถผลิตได้ในประเทศ
ข้อตกลง 123 จะช่วยยกระดับความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ทั้งในด้านความมั่นคงทางพลังงาน และเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจ พร้อมสนับสนุนเป้าหมายด้านพลังงานของไทย เสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าระหว่างอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ กับไทยในเทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์ขั้นสูง รวมถึงสร้างการจ้างงานในทั้งสองประเทศผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีนิวเคลียร์ขั้นสูงของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ระบุว่า สหรัฐฯ มุ่งหวังที่จะสานต่อความร่วมมือกับประเทศไทยด้านพลังงานนิวเคลียร์พลเรือนอย่างยั่งยืนในระยะยาว