จับตา “แพทองธาร” ขอศาล รธน. ขยายเวลาแจงคดีคลิปเสียง ครบกำหนด 15 ก.ค. นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.ค.68) นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อาจยื่นขอขยายเวลาทำคำชี้แจงต่อศาล ในคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หลังสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 36 คน ยื่นคำร้องผ่านประธานวุฒิสภา ว่ามีลักษณะอาจเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง

นายนครินทร์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และยังไม่เห็นเอกสารใด ๆ แต่ตามหลักการสามารถขอขยายเวลาได้ เนื่องจากเป็นสิทธิ์ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ส่วนจะอนุญาตขยายเวลาได้กี่ครั้งนั้น ต้องหารือในที่ประชุมองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก่อน เบื้องต้นอย่างน้อยสามารถขอได้หนึ่งรอบ ทั้งนี้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับคดี

สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องจากสมาชิกวุฒิสภาบางส่วน เพื่อให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ ตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) พร้อมสั่งให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับจากวันที่รับสำเนาคำร้อง ซึ่งตรงกับวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

ด้าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ หากไม่แล้วเสร็จทันตามกำหนด ก็จำเป็นต้องขอเลื่อนการยื่นคำชี้แจงออกไป

ขณะที่ประเด็นหลักในการต่อสู้คดี นพ.พรหมินทร์ ระบุว่า จะเน้นชี้แจงเจตนาของนายกรัฐมนตรีที่มุ่งรักษาผลประโยชน์ของประเทศ และการสื่อสารอย่างชัดเจน โดยกระบวนการที่ผ่านมามีการนำคลิปเสียงสนทนาส่วนตัวมาเผยแพร่ในที่สาธารณะอย่างไม่เหมาะสม แต่หากฟังเนื้อหาโดยรวม จะเห็นได้ว่าเจตนาทั้งหมดเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ผ่านการสื่อสารกับบุคคลที่ไม่ได้มีสถานะเป็นตัวแทนรัฐบาลกัมพูชา

ก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ซึ่งถูกบันทึกเป็นคลิปเสียงและนำมาเผยแพร่ มีบุคคลอื่นอยู่กับนางสาวแพทองธารด้วย ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น, นพ.พรหมินทร์ และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อถูกถามว่า ในฐานะบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์จะสามารถเป็นพยานยืนยันเจตนาของนางสาวแพทองธาร ได้หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ ระบุว่า หากมีความจำเป็น ทางทีมมีหลักฐานครบถ้วน รวมถึงมีพยานที่สามารถยืนยันเจตนาได้อย่างชัดเจน อีกทั้งที่ผ่านมาได้มีการหารืออย่างใกล้ชิดกับฝ่ายกองทัพมาโดยตลอด ยืนยันว่าไม่มีสิ่งใดเป็นไปตามข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การประชุมขององค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประจำสัปดาห์นี้ มีกำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2568 ซึ่งต้องจับตาว่า ทีมกฎหมายของนางสาวแพทองธาร จะยื่นคำร้องขอขยายเวลาการทำคำชี้แจงออกไปอีก 15 วันหรือไม่ หลังจากครบกำหนดที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งไว้