SET บ่ายบวก 14 จุด แรงซื้อ “บิ๊กแคป” หนุน – แบงก์ลดแรงขาย

ดัชนีหุ้นไทยบ่ายนี้พุ่งกว่า 14 จุด ตามตลาดหุ้นภูมิภาค รับแรงหนุนจาก GDP ไตรมาส 2/68 ของจีนขยายตัวดีกว่าคาด พร้อมแรงซื้อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ขณะหุ้นกลุ่มแบงก์เริ่มส่งสัญญาณบวกจากงบ TISCO


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ก.ค.68) ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 14:54 น. อยู่ที่ระดับ 1,158.25 จุด บวก 14.94 จุด หรือ 1.31% สูงสุดที่ระดับ 1,160.16 จุด ต่ำสุดที่ระดับ 1,139.64 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,544.49 ล้านบาท

โดยตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายเด้งขึ้นกว่า 10 จุด รับแรงซื้อหุ้นใหญ่หนุนต่อเนื่องจากภาคเช้า นำโดยหุ้น AOT ขณะที่แรงขายกลุ่มแบงก์เริ่มชะลอลง ตอบรับ Sentiment เชิงบวกจากต่างประเทศ โดย GDP จีนดีกว่าคาด และคาดหวังเจรจาการค้ากับสหรัฐบรรลุผลสำเร็จ

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงในช่วงบ่ายตามตลาดหุ้นภูมิภาคขานรับตัวเลข GDP ของจีนในไตรมาส 2/68 ขยายตัว 5.2% ดีกว่าตลาดคาด รวมทั้งมีแรงซื้อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และความคาดหวังการเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐใกล้ได้ข้อสรุปที่ตลาดคาดภาษีน่าจะต่ำกว่า 36%

ขณะที่งบไตรมาส 2/68 ของ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ออกมาดีกว่าคาด แม้ว่ากำไรลดลง แต่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตค่อนข้างดี มองเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับงบกลุ่มแบงก์

นอกจากนี้ ทางเทคนิคดัชนี SET ยืนเหนือระดับ 1,150 จุดได้มีโอกาสขึ้นไปได้ต่อ ให้แนวต้านที่ 1,160 จุด แนวรับ 1,145 จุด

บล.โกลเบล็ก ระบุว่า ดัชนีปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังว่าจะได้ ผู้ว่าธนาคาร แห่งประเทศไทยซึ่งคาดว่าจะเข้า ครม. ในวันนี้ แต่ล่าสุด รมช. สาธารณสุขเผย ครม. ยังไม่พิจารณาแต่งตั้งผู้ว่า ธปท. ในวันนี้ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้จำกัด มองกรอบ ดัชนีภาคบ่าย 1,140-1,157 จุด

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาด SET Index บ่ายแกว่งตัวออกข้างในกรอบ 1,145-1,155 จุด โดยมองตลาดรอ 1) ความคืบหน้าการแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ หลัง 2 รายชื่อที่มีโอกาสเข้าชิงตำแหน่ง คือ คุณ วิทัย รัตนากร และ คุณรุ่ง  มัลลิกะมาส ซึ่งก่อนหน้าตลาดคาดการณ์ตามถ้อยคำของ รมต.กระทรวงการคลังว่าจะเสนอคุณวิชัย เข้าที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณา ทำให้มีแรงเข้าซื้อในหุ้นกลุ่มอสังหาฯ และ การเงิน ร่วมกับแรงขายในกลุ่มธนาคาร ตามการคาดการณ์ว่านโยบายจะอิงไปในเชิงผ่อนคลายมากกว่าในอดีต เมื่อแหล่งข่าวชี้ยังไม่ได้ผลลัพธ์ในประเด็นดังกล่าว และ จะเลื่อนไปพิจารณาในสัปดาห์หน้า จึงคาดตลาดจะยังไม่เร่งเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในช่วงบ่ายวันนี้

2) ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐ ล่าสุด รมว.มหาดไทย เผยไม่เคยมีการคุยกับสหรัฐว่าจะแลกการใช้ฐานทัพเรือพังงา กับการลดกำแพงภาษี ทำให้ประเด็นกำแพงภาษียังคง Overhang ต่อไป

3) ตลาดจับตา CPI และ Core CPI เดือน มิ.ย. ของสหรัฐใกล้ชิด คาดตัวเลขทั้งสองจะออกมาขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งแบบเมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และจากเดือนก่อนหน้า โดยประธานเฟดยังแสดงท่าทีกังวลต่อเงินเฟ้อที่อาจเร่งตัวขึ้นจากผลกระทบของกำแพงภาษี แม้คณะกรรมการเฟดหลายท่านมีท่าทีในเชิง Dovish มากขึ้น จึงต้องจับตาเพื่อคาดการณ์ทิศทางนโยบายการเงินของเฟดว่าจะมีทีท่าเปลี่ยนไปหรือไม่

ด้านปัจจัยหนุนมองหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว ขนส่ง และ โรงแรม รับ Sentiment บวกจาก1) การเลื่อนการเก็บค่าเหยียบแผ่นดินไทย โดยเบื้องต้นยังอยู่ในขั้นตอนศึกษาดูงาน และมองว่าปัจจุบันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

2) ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-13 ก.ค.68 มีจำนวนทั้งสิ้น 17.7 ล้านคน โดย 3 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน (92,110 คน) มาเลเซีย (81,761 คน) และ  อินเดีย (42,626 คน)

Back to top button