
“พายุวิภา” กระทบเที่ยวบินไทย CAAT ย้ำสิทธิผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวบิน-ขอคืนเงินเต็มจำนวน
พายุโซนร้อนวิภา ส่งผลกระทบเที่ยวบินหลายเที่ยวจากประเทศไทย CAAT ยืนยันผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกหรือล่าช้า สามารถขอเปลี่ยนเที่ยวบินหรือขอเงินคืนเต็มจำนวน พร้อมแนะนำตรวจสอบสถานะเที่ยวบินจากสายการบินก่อนเดินทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ก.ค. 68) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ระบุว่า ตามที่พายุโซนร้อน “วิภา” (WIPHA) กำลังเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน และส่งผลให้มีฝนตกหนักบริเวณตอนใต้ของจีน เช่น ฮ่องกง มาเก๊า หรือเซินเจิ้น ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป และมีผลกระทบให้หลายสายการบินที่ให้บริการในบริเวณที่พายุเคลื่อนผ่าน จำเป็นต้องยกเลิกหรือมีเที่ยวบินล่าช้าเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
CAAT ขอแจ้งให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว ตรวจสอบข่าวสารและสถานะของเที่ยวบินจากสายการบินก่อนกำหนดการเดินทาง
ทั้งนี้ หากผู้โดยสารที่เดินทางออกจากประเทศไทยในเที่ยวบินระหว่างประเทศและได้รับผลกระทบจากเที่ยวบินล่าช้าหรือการยกเลิกเที่ยวบิน ผู้โดยสารจะได้รับการคุ้มครองจากข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 101 มาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารเที่ยวบินแบบประจำในประเทศและระหว่างประเทศ โดยจะได้รับการดูแลและทางเลือกต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินหรือการขอรับเงินค่าโดยสารคืนเต็มจำนวน แต่ยกเว้นการรับค่าชดเชยเนื่องจากเกิดจากเหตุการณ์ภายนอกที่ไม่อาจคาดหมายและไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ทั้งนี้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุ้มครองสิทธิผู้โดยสาร ได้ที่ https://www.caat.or.th/th/archives/97266
สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยจากสนามบินที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวให้ตรวจสอบสิทธิและทางเลือกจากเว็บไซต์ของสายการบินที่เดินทาง
เที่ยวบิน FD552 ของไทยแอร์เอเชียเจอผลกระทบจาก “พายุวิภา”
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก “Outsider’s Aviation” รายงานว่า เที่ยวบิน FD552 ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ซึ่งออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 มุ่งหน้าสู่เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ได้เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนระหว่างลดระดับก่อนลงจอด โดยเครื่องบินแอร์บัส A320 ทะเบียน HS-BBA ถูกลูกเห็บกระแทกอย่างรุนแรง ส่งผลให้บริเวณส่วนหัวเครื่องบินและกระจกหน้าห้องนักบินได้รับความเสียหาย

เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะเครื่องบินกำลังลดระดับลงสู่ท่าอากาศยานนานาชาติฉงชิ่งเจียงเป่ย์ ผู้โดยสารบนเที่ยวบินดังกล่าวกว่า 147 คน รวมถึงลูกเรือให้การว่าเครื่องบินสั่นไหวอย่างรุนแรง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

จากความเสียหายที่เกิดขึ้น เที่ยวบินขากลับ FD553 ซึ่งมีกำหนดออกจากฉงชิ่งกลับกรุงเทพฯ ต้องล่าช้าไปหลายชั่วโมง สายการบินได้ออกแถลงการณ์ยืนยันเหตุการณ์ พร้อมระบุว่าเครื่องบินลงจอดได้อย่างปลอดภัย และได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ ด้วยการจัดหาที่พัก อาหาร และบริการภาคพื้นดิน พร้อมจัดเที่ยวบินทดแทน ซึ่งเดินทางถึงกรุงเทพฯ อย่างปลอดภัยในวันที่ 18 กรกฎาคม 2568
กรมอุตุนิยมวิทยาอัปเดตสถานการณ์และเส้นทางของพายุโซนร้อน “วิภา” ในวันนี้ (20 ก.ค.68) ระบุว่า พายุมีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ใกล้ชายฝั่งตอนใต้ของประเทศจีน และกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกด้วยความเร็วสูง คาดว่าจะเคลื่อนตัวไปตามแนวชายฝั่งประเทศจีน เข้าสู่พื้นที่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนที่จะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำที่แรงในประเทศลาวต่อไป
ถึงแม้พายุจะอ่อนกำลังลง แต่ยังคงส่งผลกระทบอย่างหนัก โดยคาดว่าในช่วงวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน และภาคกลางด้านตะวันตก ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ดังกล่าว
ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เช่น น่าน พะเยา และเชียงราย เตรียมตัวรับมือและพร้อมอพยพหากจำเป็น ขณะเดียวกัน มรสุมจะมีกำลังแรงตั้งแต่วันที่ 20-24 กรกฎาคมนี้ ขอให้ชาวเรือระมัดระวังการเดินเรือ โดยเฉพาะเรือเล็กที่ควรงดออกจากฝั่งเนื่องจากคลื่นลมที่มีความแรงสูง และขอให้ติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด