เก็บ GULF หรือ AOT ดี?

ในช่วง 7 วัน (ทำการ) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นมาแล้ว 96.18% และหากนับจากต้นเดือนก.ค. 2568 นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 5,770 ล้านบาท


ในช่วง 7 วัน (ทำการ) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นมาแล้ว 96.18%

และหากนับจากต้นเดือนก.ค. 2568 นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 5,770 ล้านบาท

ส่วนนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 4,816 ล้านบาท

แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ ดัชนีฯ ที่วิ่งขึ้นมาในรอบล่าสุด มาจากการเข้าไล่ซื้อหุ้นของนักลงทุนสถาบันกับต่างชาติเพียงไม่กี่หุ้นเท่านั้น เช่น AOT GULF DELTA PTT SCC และ CPALL

แต่ที่มีน้ำหนักต่อการดันดัชนีจริง ๆ จะมีเพียง AOT DELTA GULF

ดัชนีที่ขึ้นแรงเกือบ 100 จุดในช่วง 7 วัน ทำให้ต้องระวังเรื่องของ “การปรับฐาน” ที่รุนแรงเช่นกัน

นักวิเคราะห์มองว่า การใช้เพียงไม่กี่หุ้นเพื่อดันดัชนีทำให้ตลาดไม่แข็งแรงเท่าที่ควร มีความเปราะบาง และเสี่ยงต่อการโค่นล้มได้ง่าย จากที่ (ดัชนี) ขึ้นมารวดเร็วเกินไป

หากเทียบกับที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาที่ระดับ 1,220 ในรอบล่าสุด หรือก่อนหน้านี้

นั่นก็เกิดจากการใช้หุ้นกลุ่มกัลฟ์ เช่น GULF ADVANC รวมถึง DELTA เข้ามาดันดัชนี

และในที่สุดตลาดเกิดการปรับฐานอย่างรุนแรง ดัชนีถูกตบลงต่อเนื่อง

ก่อนที่จะวิ่งกลับขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการใช้หุ้นเพียงไม่กี่หุ้น และเป็นหุ้นตัวเดิมที่ช่วยดันดัชนีขึ้นมาอีกครั้ง

ล่าสุด AOT กับ GULF เริ่มถูกขายทำกำไร

อย่างกัลฟ์ ราคาที่วิ่งขึ้นมาจากบริเวณ 39.00 บาท และขึ้นมาสูงสุด 45.75 บาท เมื่อสัปดาห์ก่อน

ทว่าราคาหุ้นกลับยืนหรือไปต่อไม่ได้ 

หุ้นถูกขายทำกำไรที่บริเวณ 45.00-45.50 บาท ออกมาค่อนข้างมาก

ในทางเทคนิคแล้วหุ้น ๆ ไม่ผ่านแนวต้านแบบนี้มีโอกาสที่จะย่อลงอีกครั้ง อย่างกัลฟ์ แนวรับน่าจะลงไปอยู่ที่ 43.00 บาท ขณะที่วานนี้ปิดที่ 44.25 บาท ลดลง 0.75 บาท

ส่วน AOT หรือ บมจ.ท่าอากาศยานไทย วิ่งขึ้นมาจาก 29.50 บาท นับจากวันที่  9 ก.ค. 68 เป็นต้นมา

และเมื่อราคาขึ้นมาที่ 40.50 บาท ที่เป็นแนวต้าน หุ้นได้ถูกขายทำกำไร และปรับลงมา 2 วันติดต่อกัน

เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.ค.ปิดลดลง 1.25 บาท มาที่ 39.00 บาท

และวานนี้ลงมาอีก 0.50 บาท ปิดตลาดที่ 38.50 บาท

การลงของหุ้น AOT สอดคล้องกับการขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันวานนี้กว่า 907 ล้านบาท ที่น่าจะเป็นการขายทำกำไรออกมา หลังจากกลุ่มสถาบัน ถูกมองว่า เป็นกลุ่มที่เข้าไปเก็บและดันราคา AOT ขึ้นมาต่อเนื่อง

อย่างที่เรารับทราบกัน

หุ้นที่มาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ แล้วถูกดันมาต่อเนื่องหลายวัน จนกราฟตั้งชัน

มีเพียงนักลงทุนสถาบันเท่านั้นที่สามารถทำเหตุการณ์แบบนี้ได้

สำหรับหุ้น AOT มี โบรกเกอร์ 20 แห่ง ที่ Cover แนวโน้มผลประกอบการและราคาเป้าหมายออกมา

ราคาเป้าหมายของหุ้น AOT สูงสุดอยู๋ที่ 48.00 บาท และราคาเป้าหมายต่ำสุดอยู๋ที่ 20.00 บาท และมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยในระดับ 30.50 บาท ซึ่งจะเห็นว่า ราคา ณ ปัจจุบัน เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายเฉลี่ย จะอยู๋ในระดับ “แพง” เกินไปแล้ว

อาจจะมีคำถามว่า แล้วโบรกเกอร์ 20 แห่งที่เคาะราคาเป้าหมาย AOT ออกมานั้น มีอยู่กี่แห่งที่ให้ราคาเกิน 38.50 บาท

คำตอบคือ มีเพียง 2 แห่ง คือ บล.โกลเบล็ก เคาะไว้ที่ 48.00 บาท ส่วนอีกแห่งคือ บล.พายให้ราคาไว้ 39.00 บาท

ดูราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นมา ดูราคาเป้าหมาย ดูทิศทางด้านพื้นฐานของหุ้น AOT

โอกาสที่ราคาจะพลิกกลับขึ้นมา แล้ววิ่งขึ้นไปเหนือ 40.50 บาท แทบจะเป็นไปค่อนข้างมาก เพราะนักลงทุนสถาบันเอง ไม่น่าจะเข้ามาไล่

ต่างจากหุ้นกัลฟ์ที่ปรับฐานรอบนี้ หากไม่หลุดแนวรับ 43.50 บาท

ราคาหุ้นกัลฟ์ฯ จะมีโอกาสผ่าน 45.50 บาท แล้วกลับไปเล่นเหนือ 50.00 บาทได้อีกครั้ง

ราคาเป้าหมายเฉลี่ยของหุ้นกัลฟ์อยู่ที่ 61.50 บาท (จากโบรกเกอร์ 17 แห่ง) โดยมีราคาเป้าหมายต่ำสุด 50.00 บาท และเป้าหมายสูงสุด 72.50 บาท

หากราคาหุ้นกัลฟ์ฯ ย่อลงมารอบนี้

และเมื่อดูจากราคาที่เป็น Consensus ถือว่าน่าสะสม

Back to top button