“ทรัมป์” เผยดีลยักษ์ญี่ปุ่น ลงทุน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ แลกภาษีสหรัฐ 15%

ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่กับญี่ปุ่น มูลค่าการลงทุนในสหรัฐฯ 5.5 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมเปิดตลาดรถยนต์ ข้าว และสินค้าเกษตรให้สหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นในอัตรา 15%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ก.ค.68) เวลา 06:12 น. ตามเวลาประเทศไทย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social เปิดเผยว่า สหรัฐฯ เพิ่งบรรลุข้อตกลงครั้งใหญ่กับญี่ปุ่น ซึ่งอาจเป็นข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา

“ญี่ปุ่นจะลงทุนในสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ ภายใต้คำสั่งของผม โดยสหรัฐฯ จะได้รับผลตอบแทนถึง 90% จากกำไรทั้งหมด ข้อตกลงนี้จะสร้างงานนับแสนตำแหน่ง ไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อน” ทรัมป์ ระบุ

ผู้นำสหรัฐฯ ยังระบุเพิ่มเติมว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ญี่ปุ่นจะเปิดประเทศเพื่อการค้า รวมถึงสินค้าประเภทรถยนต์และรถบรรทุก ข้าว และผลิตภัณฑ์การเกษตรบางชนิด รวมถึงสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งญี่ปุ่นจะถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) จากสหรัฐฯ ที่อัตรา 15%

ทรัมป์ทิ้งท้ายด้วยว่า “นี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งสำหรับสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเราจะยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีกับประเทศญี่ปุ่นต่อไป”

นายเรียวเซ อากาซาวะ หัวหน้าคณะเจรจาการค้าของญี่ปุ่น ยืนยันผลการเจรจาดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกล่าวถึงการเยือนทำเนียบขาว และติดแฮชแท็ก “Mission accomplished”

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทำเนียบขาวได้ส่งจดหมายถึงญี่ปุ่นเพื่อขู่จะเรียกเก็บภาษี 25% กับสินค้าส่งออกของญี่ปุ่นมายังสหรัฐฯ หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถสรุปข้อตกลงใหม่ได้ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นอัตราสูงกว่าที่ทรัมป์ได้ประกาศไว้ใน “วันปลดปล่อย” (Liberation Day) เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2568 ซึ่งอยู่ที่ 24%

การนำเข้ารถยนต์ญี่ปุ่นในสหรัฐฯ เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ต้องเสียภาษีในอัตรา 25% มาระยะหนึ่งแล้ว หลังสำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่นรายงานว่า จะมีการลดภาษีเดิมสำหรับรถยนต์ญี่ปุ่น ราคาหุ้นของบริษัทรถยนต์รายใหญ่ทั้งโตโยต้า นิสสัน และฮอนด้าก็พุ่งสูงขึ้น

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเปิดเผยอีกว่า ข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) จะมีการประกาศในวันพุธนี้เช่นกัน ขณะที่คาดว่าจะมีข้อตกลงอื่นตามมาในเร็ว ๆ นี้

Back to top button