“ทักษิณ” แจงยิบศึกชายแดน! ยันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เกิดจาก “ระแวง-อารมณ์” ของกัมพูชา

“ทักษิณ ชินวัตร” ตอกกลับกัมพูชา โจมตีพลเรือนผิดหลักมนุษยธรรม ย้ำไม่แทรกแซงยุทธการทหารไทย ขอปล่อยมืออาชีพจัดการเต็มรูปแบบ พร้อมเผยเบื้องหลังชนวนเหตุจาก “ฮุน เซน” ก่อนเกิดความขัดแย้ง


นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา โดยระบุว่า การปะทะครั้งนี้ถือเป็นเหตุฉุกเฉินที่ต้องลงพื้นที่ด้วยตนเอง พร้อมแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลไทย และชื่นชมในความเสียสละเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเหมาะสม

พร้อมกันนี้ นายทักษิณ ยังประณามการกระทำของกัมพูชาที่ใช้อาวุธหนักถล่มบ้านเรือนและโรงพยาบาลของไทยว่า “ใช้ไม่ได้” และไม่เคยมีประเทศใดในโลกกระทำเช่นนี้ โดยชี้ว่าแม้ไทยใช้เครื่องบิน F-16 ก็ยังเลือกโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหาร ไม่แตะต้องพลเรือน เพื่อเคารพหลักมนุษยธรรมสากล

ในประเด็นที่มีหลายประเทศแสดงความห่วงใยและเสนอตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย นายทักษิณยอมรับว่ามีความพยายามเข้ามาช่วยเหลือจากนานาประเทศ แต่ไทยยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ และต้องพูดคุยกันโดยตรง พร้อมระบุว่าต้นตอของปัญหามาจากฝ่ายกัมพูชาเองที่พยายามปลุกกระแสนิยมในประเทศเกินเหตุจนกระทบผลประโยชน์ของตนเอง และไม่คาดคิดว่าสถานการณ์จะยกระดับความรุนแรงได้ถึงเพียงนี้

นายทักษิณประเมินว่าสถานการณ์ไม่น่าจะยืดเยื้อ พร้อมยืนยันว่าพื้นที่ที่เป็นจุดปะทะเคยอยู่ในเขตที่ไทยครอบครองมาก่อนและถูกฝ่ายตรงข้ามรุกล้ำเข้ามา ทหารไทยจึงจำเป็นต้องขยายแนวและยึดคืนอย่างถูกต้องตามยุทธศาสตร์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสวิจารณ์กรณีที่เจ้าตัวโพสต์ผ่านแอปพลิเคชัน X ระบุว่า “ขอปล่อยให้ทหารไทยสั่งสอนเล่ห์เหลี่ยมฮุน เซน” นายทักษิณชี้แจงว่า “เขาบ้าอยู่คนเดียว นั่งเล่นโซเชียลทั้งวันเป็นซอมบี้” พร้อมย้ำว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างสองตระกูลอย่างที่สังคมเข้าใจ แต่เกิดจากความระแวงและอารมณ์ส่วนตัวของฝ่ายตรงข้ามล้วน ๆ

นายทักษิณยังเปิดเผยถึงเหตุการณ์ก่อนเกิดความขัดแย้งว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาเคลื่อนกำลัง 12,000 นายมาที่ชายแดน ตนจึงโทรศัพท์ไปเตือนว่าอย่าให้ลูกหลานของเรา ต้องทำสงครามกัน ฝ่ายตรงข้ามรับปากและถอนกำลังในวันอาทิตย์โดยไม่แจ้งล่วงหน้า แต่ไทยได้สั่งปิดด่านไปก่อนหน้านั้นหนึ่งวันแล้ว ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดและนำไปสู่ความโกรธของฝ่ายกัมพูชา และเป็นชนวนที่นำไปสู่การสู้รบในที่สุด

ส่วนเรื่องคำขอหยุดยิง นายทักษิณเผยว่ามีหลายประเทศร้องขอ โดยเฉพาะจากฝั่งตรงข้ามผ่านมหาอำนาจ เช่น จีน อย่างไรก็ตาม ไทยยังไม่ตอบรับ เนื่องจากยุทธการทหารยังไม่แล้วเสร็จ และการตัดสินใจใด ๆ ต้องพิจารณาผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก่อน ซึ่งยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง และตนเองไม่ได้เป็นผู้ล็อบบี้หรือผลักดันให้เกิดการหยุดยิง

อย่างไรก็ตาม นายทักษิณ แสดงความมั่นใจในศักยภาพของกองทัพไทย พร้อมเปิดเผยว่าได้สั่งซื้อโดรนตรวจการณ์ด้วยเงินส่วนตัว ซึ่งจะสามารถวางแผนที่และตรวจหากับระเบิดจากภาพถ่ายทางอากาศ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับกำลังทหารไทย และเตรียมใช้งานในสัปดาห์หน้า ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน

Back to top button