
TU ปิดดีล “มิตซูบิชิ” ถือหุ้นแตะ 20% รุกธุรกิจโลกเต็มสูบ–ปั้นรายได้โตยั่งยืน
TU ลงนามพันธมิตรทางธุรกิจกับ “มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น” อย่างเป็นทางการดึงถือหุ้น 20% หวังเสริมศักยภาพธุรกิจและการเติบโตระยะยาว ทั้งสองฝ่ายมั่นใจเกิดประโยชน์ร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญ
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 5/2568 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และผู้ถือหุ้นทุกท่านว่า ตามที่มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ได้แจ้งเจตจำนงในการลงทุนเพิ่มเติมในบริษัทฯ และตกลงเข้าร่วมพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างการเติบโตและความร่วมมือทางธุรกิจ ตามรายละเอียดสารสนเทศข้อเสนอรับซื้อหุ้นจากมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ซึ่งได้เปิดเผยไปก่อนหน้านี้นั้น
บริษัทฯ ขอแจ้งว่าคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาข้อสัญญาและเงื่อนไขต่าง ๆ ของสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ (Business Alliance Agreement) และบริษัทฯ ได้ตกลงเข้าทำสัญญาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากข้อตกลงด้านการรักษาความลับระหว่างคู่สัญญา บริษัทฯ จึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย และจะช่วยเสริมสร้างการเติบโตและความร่วมมือทางธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาว
ก่อนหน้านี้ TU ได้รับหนังสือแสดงเจตจำนงจากมิตซูบิชิฯ ว่ามีความประสงค์จะลงทุนเพิ่มเติม โดยเสนอซื้อหุ้น TU จำนวน 532,273,639 หุ้น หรือคิดเป็น 13.81% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้ว (ไม่นับรวมหุ้นซื้อคืน) ในราคาหุ้นละ 12.50 บาท หากดีลสำเร็จ จะส่งผลให้มิตซูบิชิฯ ถือหุ้นใน TU รวม 20% จากเดิม 6.19% ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568
อย่างไรก็ดี ดีลดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไขแบบ “All or Nothing” กล่าวคือ ผู้ยื่นข้อเสนอจะดำเนินการซื้อหุ้นต่อเมื่อสามารถรวบรวมหุ้นได้ครบจำนวนเท่านั้น หากมีผู้ขายไม่ครบ จะยกเลิกดีลทันที และจะไม่รับซื้อในสัดส่วนที่ต่ำกว่า 20% แต่อย่างใด
นอกจากนี้ การเสนอซื้อยังต้องผ่านเงื่อนไขบังคับก่อน ได้แก่ ต้องมีสัดส่วน Foreign Room เหลือไม่ต่ำกว่า 13.81%, ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ, ไม่มีเหตุการณ์ลบกระทบต่อกิจการอย่างมีนัยสำคัญและ TU ต้องไม่ดำเนินการออกหุ้นเพิ่มทุน ซื้อหุ้นคืน หรือเปลี่ยนแปลงสิทธิผู้ถือหุ้นก่อนดีลเกิดขึ้นจริง
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ไม่เข้าข่ายการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ตามมาตรา 247 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เนื่องจากสัดส่วนการถือหุ้นใหม่จะไม่เกิน 25%
ทั้งนี้ TU ระบุว่าจะประกาศวันเริ่มต้นการรับซื้อหุ้นอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังเงื่อนไขครบถ้วน พร้อมแนะนักลงทุนติดตามข้อมูลจากบริษัทโดยตรง และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากไม่แน่ใจ