
TTB สิ้นสุดซื้อหุ้นคืน
นับตั้งแต่ต้นปีมานี้ ถ้าโฟกัสเฉพาะหุ้นกลุ่มแบงก์ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB น่าจะเป็นแบงก์แรกและแบงก์เดียวของปีนี้ที่ประกาศจัดทำโครงการซื้อหุ้นคืน
นับตั้งแต่ต้นปีมานี้ ถ้าโฟกัสเฉพาะหุ้นกลุ่มแบงก์ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB น่าจะเป็นแบงก์แรกและแบงก์เดียวของปีนี้ที่ประกาศจัดทำโครงการซื้อหุ้นคืน หรือ Treasury Stock เพื่อต้องการบริหารสภาพคล่อง (เงินสด) และช่วยให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพและดูดีขึ้น..!!
โดย TTB จะซื้อหุ้นคืนภายใต้วงเงินรวมไม่เกิน 21,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2568 ไปจนถึงปี 2570…ประเดิมปีนี้วงเงินไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนจำนวน 3,500 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.6% เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. ถึงวันที่ 1 ส.ค. 2568
ส่วนการซื้อหุ้นคืนในปีที่ 2 และปีที่ 3 จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ในขณะนั้น ซึ่งต้องมาพิจารณากันอีกที…
แต่ที่ปิดจ๊อบไปแล้ว เห็นจะเป็นการซื้อหุ้นคืนในปีแรก 2568 นี้ ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา โดยได้ซื้อหุ้นคืนรวมทั้งสิ้น 2,688.18 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.76% มูลค่ารวมทั้งสิ้น 5,103.14 ล้านบาท
ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 3.6% เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้น้อยจนเกินไป…
ถ้าให้วิเคราะห์สาเหตุที่ผู้ถือไม่อยากขายหุ้น TTB อาจเป็นเพราะ 1) ผู้ถือหุ้นยังไว้เนื้อเชื่อใจ TTB ว่ายังเดินหน้าสร้างการเติบโตได้ต่อไป 2) TTB เป็นหุ้นแบงก์พื้นฐานดี เก็บไว้กินเงินปันผลน่าจะดีกว่า และ 3) ด้วยราคาหุ้นวิ่งไปไหนไม่ไกล ไม่เกิน 2 บาทสักกะที เลยรู้สึกว่าขายไปก็ไม่คุ้มอ๊ะป่าว..??
เอาเถอะ…แม้การซื้อหุ้นคืนเฟสแรกจะหย่อนเป้าไปหน่อย แต่ก็บรรลุเป้าหมายบางส่วน อันดับแรก ช่วยสร้างเสถียรภาพด้านราคา ที่ผ่านมาอาจจะเห็นหุ้นแบงก์หลาย ๆ ตัว ราคาค่อนข้างเหวี่ยงตามภาวะตลาดโดยรวม แต่ราคาหุ้น TTB ค่อนข้างสตรอง ไม่ค่อยลงและไม่ค่อยขึ้น ราคามีเสถียรภาพ…
สิ่งที่ตามมาอีกอย่าง โอเค…เดิม TTB เป็นหุ้นที่ปันผลสูง ยีลด์ในอดีตดีอยู่แล้ว ก็จะทำให้ยีลด์สูงขึ้นไปอีก…อัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) จะดีขึ้น 2.76% และยีลด์จะเพิ่มขึ้น 2.76% เช่นกัน เนื่องจากมีตัวหารหรือจำนวนหุ้นหายไป 2,688.18 ล้านหุ้น
สอดคล้องกับมุมมองของนักวิเคราะห์หลาย ๆ สำนักต่างมองบวกต่อ TTB อย่าง บล.กสิกรไทย (KS) ระบุว่า TTB โดดเด่นที่สุดในแง่ของผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในปี 2568-2569 ด้วยอัตราการจ่ายเงินปันผลที่สูงขึ้น และโครงการซื้อหุ้นคืน 3 ปี เมื่อเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มธนาคารอื่น ๆ คาดว่า TTB จะเสนออัตราตอบแทนเงินปันผลปี 2568 ที่ 7.1%
หากรวมโครงการซื้อหุ้นคืนของ TTB สูงสุด 4.3 พันล้านบาทต่อปี ในปี 2568-2570 เทียบกับแผนสูงสุดที่ 7.0 พันล้านบาทต่อปี โครงการซื้อหุ้นคืนจะเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นขึ้น 2.3% ต่อปี ส่งผลให้ผลตอบแทนรวมแก่ผู้ถือหุ้นของ TTB จะอยู่ที่ประมาณ 9.4% ต่อปี ในปี 2568-2569
ด้าน บล.ทิสโก้ มองว่ากำไรของ TTB จะมีความผันผวนน้อยกว่าคู่แข่ง ช่วยให้ธนาคารสามารถรักษาเงินปันผล 7% และการซื้อหุ้นคืน 3.6% ของหุ้นที่ชำระแล้ว ด้วยกำไรที่มั่นคง อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง และโครงการซื้อหุ้นคืนที่มีระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า ทำให้เป็นปัจจัยบวกที่น่าสนใจ
งั้นถ้าจะต้องบอกว่า TTB เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ประกาศซื้อหุ้นคืนแล้วโอเค…ก็ไม่ผิดนะสิ หรือใครจะเถียง
ไม่นับรวมงบที่แข็งแกร่ง แม้จะดรอปลงบ้างบางไตรมาส โดยงบไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิ 5,004.26 ล้านบาท ลดลง 7.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,393.76 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 10,100.28 ล้านบาท ลดลง 6.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10,767.89 ล้านบาท
เรียกว่างบก็เด่น…ปันผลก็งาม
เป็นอีกหนึ่งหุ้นแบงก์ที่มีความครบเครื่องนะเนี่ย…
…อิ อิ อิ…