สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ส.ค.68

ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดผสมจากแรงกดดันนโยบายการเงินเฟด ด้านน้ำมันพุ่งหนุนจากสต็อกลด-สงครามยูเครนยืดเยื้อ ขณะที่ทองคำร่วงจากดอลลาร์แข็ง นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงพาวเวล


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 152.81 จุด หรือ -0.34% ที่ระดับ 44,785.50 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดลดลง 25.61 จุด หรือ -0.40% และดัชนี Nasdaq ลดลง 72.55 จุด หรือ -0.34% จากแรงกดดันความกังวลว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงิน (hawkish) ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสันโฮล รวมทั้งผลประกอบการที่น่าผิดหวังของวอลมาร์ท

ตลาดหุ้นยุโรปปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง โดย STOXX 600 ลดลง 0.02 จุด ปิดที่ 559.07 จุด สะท้อนการรอดูท่าทีเฟดและข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-สหภาพยุโรป ทั้งนี้ CAC-40 ฝรั่งเศสปิดลบ 0.44% ที่ 7,938.29 จุด ขณะที่ DAX เยอรมนีบวก 0.07% และ FTSE 100 ลอนดอนเพิ่มขึ้น 0.23% ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์

ด้านตลาดพลังงาน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนตุลาคมปิดบวก 1.29% ที่ 63.52 ดอลลาร์/บาร์เรล และน้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้น 1.24% ที่ 67.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลงเกินคาด และความไม่แน่นอนของการเจรจาสันติภาพรัสเซีย–ยูเครน

ตลาดทองคำปรับตัวลงจากแรงกดดันค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า โดยสัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 6.9 ดอลลาร์ หรือ -0.20% ปิดที่ 3,381.60 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนจับตาคำกล่าวของพาวเวลในที่ประชุมแจ็กสันโฮลเพื่อหาสัญญาณดอกเบี้ย

ส่วนตลาดเงิน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า 0.41% แตะ 98.619 หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณแข็งแกร่ง โดยยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้นมากกว่าคาดการณ์ สะท้อนความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและทิศทางการเงินในระยะถัดไป

Back to top button