BGRIM มั่นใจครึ่งปีหลังโต รับดีมานด์ Data Center–ทยอย COD โรงไฟฟ้าต่อเนื่อง

BGRIM ชี้สัญญาณครึ่งปีหลังสดใส รับแรงหนุนจากลูกค้า Data Center–อุตสาหกรรมใหม่ และโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ทยอย COD ต่อเนื่อง


นางสาวศิริวงศ์ บวรบุญฤทัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและบัญชี บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยในงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้ 15,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 13,651 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ (Net Profit) อยู่ที่ 7 ล้านบาท สาเหตุหลักจากผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง

โดยแรงกดดันสำคัญมาจากการชำระคืนค่าแก๊สที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน–ธันวาคม 2566 ตามมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่กำหนดเพดานราคาก๊าซไว้ที่ 304.79 บาทต่อล้านบีทียู (MMBTU) โดยส่วนต่างดังกล่าวถูกรับรู้เต็มจำนวนในไตรมาสนี้ ประกอบกับค่าใช้จ่ายภาษีที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ต้นทุนดังกล่าวคาดว่าจะถูกส่งผ่านการปรับค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ในอนาคต ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอัพไซด์ต่อผลประกอบการในงวดถัด ๆ และยังมีค่าใช้จ่ายด้านภาษีที่สูงขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้เผชิญแรงกดดัน แต่บริษัทยังได้รับแรงสนับสนุนจากหลายปัจจัย ได้แก่ ปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 1.7% มาอยู่ที่ 3,899 กิกะวัตต์–ชั่วโมง, รายได้จากค่าบริการพัฒนาโครงการ (Development Fee), การเชื่อมเข้าระบบของลูกค้าอุตสาหกรรมใหม่อีก 13.8 เมกะวัตต์ในกลุ่มเหล็ก อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเครื่องใช้ในครัวเรือน และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ปรับตัวดีขึ้น

สำหรับงวด 6 เดือนแรกสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัทมีรายได้รวม 28,773 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 27,816 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.9% จาก 607 ล้านบาท

นางสาวศิริวงศ์ กล่าวถึงแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2568 ว่า เริ่มเห็นสัญญาณบวก หลังไทยถูกเรียกเก็บอัตราภาษีศุลกากร (Tariffs) จากสหรัฐอเมริกาที่ 19% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ ทำให้ลูกค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน มีแนวโน้มกลับมาใช้ไฟมากขึ้น อีกทั้งรัฐมีนโยบายที่กระตุ้นสินเชื่อรถยนต์ ขณะที่ผลกระทบต่อลูกค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯ มีเพียงราว 5%

ด้านต้นทุนก๊าซ คาดทรงตัวที่ระดับ 310–330 บาทต่อล้านบีทียู ใกล้เคียงปี พ.ศ. 2567 ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า Data Center 2–3 ราย เรื่องการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ซึ่งต้องพิจารณาสูตรค่าไฟรูปแบบใหม่ ขณะที่แผนการนำเข้า LNG คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

สำหรับการปรับสูตรค่าไฟฟ้าลูกค้านิคมอุตสาหกรรม บริษัทมีแนวทางส่งผ่านต้นทุนก๊าซไปยังลูกค้า โดยเริ่มจากกลุ่ม Data Center ที่อยู่ระหว่างการต่อสัญญา PPA

ด้านการพัฒนาโครงการใหม่ ครึ่งปีหลังจะทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ได้แก่ โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ARECO Solar Power Plant กำลังการผลิต 65 เมกะวัตต์ในฟิลิปปินส์ และโครงการ NAKWOL1 Offshore Wind Farm ที่เกาหลีใต้ ซึ่งคาดว่า จะเริ่ม COD ในไตรมาส 4 รวมถึงโครงการโซลาร์ฟาร์มร่วมทุนกับปูนซิเมนต์ไทย (อินทรีย์) และโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ยังคาดว่าจะมีลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) รายใหม่เข้ามาตามแผน พร้อมรายได้จาก Development Fee ที่ต่อเนื่อง หนุนแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังให้เติบโต

ทั้งนี้ในส่วนโครงการเวียดนาม ที่การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าสำหรับพลังงานหมุนเวียน นางสาวศิริวงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มมีสัญญาณเชิงบวก คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ปัจจุบันบริษัทยังสามารถออกใบแจ้งหนี้ (Invoice) เรียกเก็บรายได้เต็ม 100% โดยไม่มีข้อโต้แย้ง หากเกิดกรณีเลวร้ายที่ต้องตั้งค่าเผื่อด้อยค่า บริษัทจะพิจารณาตามกระแสเงินสดที่ได้รับ อย่างไรก็ดี แม้ค่าไฟถูกปรับลดลง โครงการยังมีความสามารถเพียงพอในการชำระหนี้และดอกเบี้ยให้สถาบันการเงินได้ตามกำหนด

สำหรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (FX) บริษัทมีหนี้สินสกุลดอลลาร์สหรัฐ แต่มีสินทรัพย์จากการปล่อยกู้ให้บริษัทย่อย (บริษัทลูก) มากกว่าหนี้ ทำให้สถานะสุทธิยังเป็นบวก หากค่าเงินเคลื่อนไหวในกรอบทรงตัว จะไม่กระทบผลประกอบการ

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการพิจารณาปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อให้ สินทรัพย์และหนี้สิน (assets & liabilities) สอดคล้องกันมากขึ้น แม้อาจยังมีบางส่วนที่เกินอยู่ โดยอยู่ระหว่างการหารือกับธนาคารเพื่อทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยง (hedging) ตั้งแต่ต้น ทั้งนี้ บริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง Treasury Center เพื่อทำหน้าที่บริหารสภาพคล่อง การปล่อยกู้ และการกู้ยืมภายในกลุ่มบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Company Snapshot

Back to top button