‘เฟด’ ปั่นป่วน! กดดันแบงก์ชาติทั่วโลก (1)

บรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางทั่วโลก ที่เข้าร่วมประชุมกัน ณ รีสอร์ตบนภูเขาแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มกังวลว่ามรสุมทางการเมือง ที่โอบล้อมกดดันธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จนอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อธนาคารกลางทั่วโลกด้วยเช่นกัน

จากความพยายามหลายครั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่จะปรับเปลี่ยนเฟด ให้เป็นไปตามที่เขาต้องการ พร้อมกดดันให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้เกิดคำถามต่าง ๆ ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะสามารถรักษาความเป็นอิสระ และยึดมั่นพันธกิจในการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อได้หรือไม่

โดย “ทรัมป์” แสดงท่าทีผิดหวังกับผู้นำเฟด ที่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย และวาระการดำรงตำแหน่งยาวนาน ของสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟดที่นานกว่าวาระของประธานาธิบดีคนใดคนหนึ่ง จึงมีการกดดันอย่างหนักให้ประธานเฟด “เจอโรม พาวเวลล์” ลาออก และสั่งปลดสมาชิกคณะกรรมการเฟดอีกคนหนึ่ง นั่นคือผู้ว่าการ Lisa Cook ออกจากตำแหน่ง..

หากธนาคารกลางที่ทรงอิทธิพลมากสุดของโลกอย่างเฟด ยอมจำนนต่อแรงกดดันดังกล่าว หรือว่า “ทรัมป์” ค้นพบแผนการปลดกรรมการเฟดหลายคนออกจากตำแหน่ง จะกลายเป็น “บรรทัดฐานอันตราย” ที่เกิดขึ้นได้ ตั้งแต่ยุโรปไปจนถึงญี่ปุ่น บรรทัดฐานที่กำหนดไว้สำหรับความเป็นอิสระของนโยบายการเงิน อาจถูกโจมตีครั้งใหม่จากนักการเมืองในประเทศต่าง ๆ เหล่านั้น..!!

Olli Rehn หนึ่งในผู้กำหนดนโยบายธนาคารกลางยุโรป (ECB) จากฟินแลนด์ กล่าวระหว่างนอกรอบการประชุมสัมมนาประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ็กสันโฮลว่า “การโจมตีเฟดด้วยแรงจูงใจทางการเมือง ส่งผลกระทบทางจิตใจไปแผ่ขยายยังส่วนอื่น ๆ ของโลก”

นั่นเป็นเหตุผลที่ Olli Rehn และเพื่อนร่วมงานทั้งหลาย ออกมาสนับสนุนพาวเวลล์ อย่างแข็งขันให้ยืนหยัดอย่างมั่นคง แม้ว่าหลังจากพาวเวลล์ส่งสัญญาณว่า อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนก็ตาม แต่ว่า “พาวเวลล์” ได้รับการปรบมือต้อนรับอย่างอบอุ่นเมื่อเขาขึ้นกล่าวบนเวทีในการประชุม

การพูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารกลางกว่า 10 คนจากทั่วโลก ระหว่างงานประชุมของเฟด ภายใต้เทือกเขาแกรนด์ทีตัน เผยให้เห็นว่าสถานการณ์ที่เฟดมองว่า ความสามารถของเฟดในการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ ที่กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงจากการสูญเสียความเป็นอิสระนั้น ถือว่าเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อสถานะของพวกเขาเองและต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในวงกว้าง

โดยสถานการณ์ดังกล่าว น่าจะนำไปสู่ความโกลาหลวุ่นวายครั้งใหญ่ในตลาดการเงินต่าง ๆ โดยนักลงทุนหลายคนเรียกร้องค่าพรีเมียมที่สูงขึ้นในการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และประเมินสถานะของตั๋วเงินคลังใหม่อีกครั้ง ในฐานะเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงระบบการเงินทั่วโลก

ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก เริ่มเตรียมการรับมือกับผลกระทบดังกล่าวแล้ว โดยเตือนธนาคารพาณิชย์หลายแห่งที่ปล่อยกู้ให้เฝ้าติดตามระมัดระวังความเสี่ยงจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

โดยพื้นฐานแล้ว การยอมจำนนของเฟด จะยุติกฎเกณฑ์เคร่งครัด ที่นำมาซึ่งเสถียรภาพด้านราคา และใช้มาอย่างน้อยนับตั้งแต่ช่วงสมัยของอดีตประธานเฟด พอล โวลเคอร์ (Paul Volcker) ผู้ล่วงลับ ที่ได้เอาชนะภาวะเงินเฟ้อที่สูง เมื่อ 40 ปีก่อนได้สำเร็จ ถือเป็นเรื่องที่อันตรายต่อระบบการเงินโลก