ฉลุย! ผู้ถือหุ้นกู้ PRIME โหวตเลื่อนชำระ 3 รุ่น เพิ่มดอกเบี้ย-หลักประกัน

นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME เปิดเผยว่าการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 2 ด้วยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เมื่อวันวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ซึ่งเป็นการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 4 รุ่นของบริษัทมูลค่ารวม 2,049,500,000 บาท (สองพันสี่สิบเก้าล้านห้าแสนบาท)

โดยบริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ถือหุ้นกู้ที่มีมติอนุมัติวาระที่บริษัทได้เสนอของรุ่น PRIME253A PRIME25DA และ PRIME25DB แต่ละวาระมีมติอนุมัติสูงถึงกว่า 90%  ส่วนอีก 1 รุ่นคือ PRIME253B นั้นที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ดังกล่าวไม่ครบองค์ประชุม จึงต้องเลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันที่ 29 สิงหาคม 2568

นายสมประสงค์ กล่าวต่อว่า การประชุมครั้งนี้ผู้ถือหุ้นกู้ ใน 3 รุ่นประกอบด้วย PRIME253A PRIME25DA และ PRIME25DBโหวตเลื่อนการชำระหุ้นกู้สูงถึง 90-98% โดยมีรายละเอียดมติการอนุมัติ ดังนี้

สำหรับหุ้นกู้ PRIME253B และ PRIME253A 1. ขอผ่อนผันเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้และขอให้ยกเลิกการเรียกให้หุ้นกู้ถึงกำหนดชำระโดยพลัน (Call Default) ตามหนังสือของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ฉบับลงวันที่ 1 สิงหาคม 2568และรวมถึงยกเลิกการดำเนินการที่เกี่ยวข้องของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับเหตุผิดนัดดังกล่าว

2.ชำระคืน 30% ของเงินต้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 และ 70% ของเงินต้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2569 (วันครบกำหนดไถ่ถอน) รวมทั้งเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 0.5%

3.หากมีมติอนุมัติตาม 2 ข้อข้างต้น บริษัทขอเสนอให้หลักประกัน โดยการจดทะเบียนจำนองที่ดินที่ตั้งอยู่ที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ไว้กับผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อเป็นหลักประกันการชำระหนี้หุ้นกู้

สำหรับหุ้นกู้ PRIME253B และ PRIME253A 1. ขอผ่อนผันเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้และยกเลิกการดำเนินการที่เกี่ยวข้องของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับเหตุผิดนัดดังกล่าว

2.ในกรณีที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 4 รุ่น ได้มีมติอนุมัติทุกเรื่อง บริษัทขอเสนอให้หลักประกัน โดยการจดทะเบียนจำนองที่ดินที่ตั้งอยู่ที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ไว้กับผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อเป็นหลักประกันการชำระหนี้หุ้นกู้

นอกเหนือจากที่บริษัทได้เสนอหลักประกันการชำระหนี้หุ้นกู้แล้ว บริษัทยังได้เสนอเพิ่มในข้อกำหนดสิทธิ โดยระบุถึงการดำเนินการนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสินทรัพย์โครงการโรงไฟฟ้า 4 รายการและสัดส่วนเงินที่จะนำมาชำระจากการจำหน่ายแต่ละโครงการอย่างชัดเจนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นกู้เพิ่มเติม

นายสมประสงค์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRIME กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าของการจำหน่ายสินทรัพย์ในขณะนี้นั้นบริษัทฯได้ลงนามในสัญญาซื้อขายกับผู้ซื้อเรียบร้อยแล้วในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตรบางส่วนและอยู่ระหว่างการดำเนินการตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อ ประกอบด้วย 4 โครงการโดยมีกำลังการผลิตติดตั้ง 18 เมกะวัตต์ มูลค่าประมาณ 680 ล้านบาท

บริษัทฯคาดว่าจะได้รับชำระงวดที่ 1 มูลค่าประมาณ 617.56 ล้านบาท ภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 เมื่อมีการโอนหุ้นบริษัทย่อยให้กับทางผู้ซื้อ ซึ่งจะเป็นแหล่งเงินหลักในการชำระเงินต้น 30% ของทั้ง 4รุ่น ที่จะครบกำหนดภายในปี 2568 นี้

“PRIME เราพร้อมในการจัดการด้านต่างๆ เพื่อนำเงินมาชำระหุ้นกู้ดังนั้นขอให้ผู้ถือหุ้นกู้มั่นใจในการบริหารจัดการของเราที่จะนำมาซึ่งผลประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นกู้เป็นสำคัญ” ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRIME กล่าวในตอนท้าย