“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ จับตาคดี “ภาษีทรัมป์” หลังศาลชี้ใช้อำนาจเกินขอบเขต

ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ นักลงทุนจับตาทิศทางคดี “ภาษีทรัมป์” หลังศาลสหรัฐฯ ชี้มาตรการเก็บภาษีศุลกากรไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังมีผลบังคับใช้ต่อไป พร้อมจับตาข้อมูลเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (1 ก.ย. 68) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่นักลงทุนประเมินข่าวศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำตัดสินว่า มาตรการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ทั่วโลกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่วนใหญ่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากทรัมป์ใช้อำนาจประธานาธิบดีเกินขอบเขตในการประกาศเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ศาลอนุญาตให้มาตรการภาษียังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป พร้อมทั้งส่งคดีกลับไปยังศาลชั้นต้นเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมว่า คำตัดสินนี้จะมีผลครอบคลุมทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากภาษีดังกล่าว หรือเฉพาะคู่ความในคดีนี้เท่านั้น ขณะที่ คำตัดสินนี้ยังคงสร้างความไม่แน่นอนว่าภาษีของทรัมป์จะถูกยกเลิกในที่สุดหรือไม่ โดยคดีนี้เดิมถูกคาดหมายว่าจะไปถึงศาลสูงสุดเพื่อให้มีคำวินิจฉัยขั้นสุดท้าย

โดยดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 42,362.71 จุด ลดลง 355.76 จุด หรือ -0.83%, ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 25,508.21 จุด เพิ่มขึ้น 430.59 จุด หรือ +1.72% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,869.75 จุด เพิ่มขึ้น 11.82 จุด หรือ +0.31% ขณะที่ ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.85% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.17%

ส่วนนักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นจีน หลังจากหุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) ทะยานขึ้น 13% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (29 ส.ค.) หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2568 ซึ่งสิ้นสุดเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 4.311 หมื่นล้านหยวน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.85 หมื่นล้านหยวน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจในเอเชีย ซึ่งรวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.ของออสเตรเลีย จีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และอินเดีย ตลอดจนดุลการค้าของเกาหลีใต้และอินโดนีเซีย

Back to top button