หุ้นพร้อมเดินหน้า

หลังจากวุ่นวายเรื่องการเมืองมาพักใหญ่ ๆ “โมนิก้า” ก็เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะเดินหน้าเพื่อสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงเสียที เพราะสิ่งที่ทุกคนรับรู้เหมือนกันก็คือ ระดับเหมาะสมของดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,300-1,350 จุด แต่วันนี้ยังยืนอยู่แค่ระดับ 1,264.80 จุด บวกไป 12.25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.16 หมื่นล้านบาท จึงเหลือแก๊ปให้ดัชนีวิ่งขึ้นค่อนข้างเยอะ และเปิดโอกาสให้ขาลุยเข้ามาตะลุมบอนอีกรอบนะจะบอกให้

ส่วนประเด็นร้อน ๆ ที่อีฉันไปวงไหน ก็ยังเม้าท์กันน้ำลายแตกฟองก็คือ เรื่องของ “บลจ.บัวหลวง” ที่ส่งคำสั่งขายหุ้น JMT ซึ่งอาจทำให้คนเข้าใจผิด เลยมีคำสั่งปรับและแบน “พีรพงศ์” เป็นเวลา 14 เดือนนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจในมุมของคนวงนอก เพราะสถานการณ์วันนั้นมันมีเรื่องโรบอทเข้ามาซื้อ ๆ ขาย ๆ ผสมโรงด้วย คนที่เก๋าเกมเลยต้องการเทสตลาดก็เท่านั้นเอง (ช่วงนั้นโรบอทป่วนหนักมาก) จ้า

สถานการณ์ข้างต้นทำให้กระสุนตกไป ก.ล.ต. กับ ตลท. อีกครั้ง เพราะผู้คนกลับมาพูดถึงเรื่อง “Short Sell” กับ “Naked Short” ว่า ที่ผ่านมาใครได้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวมากสุด ซึ่งคนในวงการก็ลงความเห็นไปในทางเดียวว่า ใครมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากสุด ก็น่าจะเป็นคนที่ได้อานิสงส์จากเรื่องดังกล่าว แต่ก็ไม่มีการยืนยันว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ จึงกลายเป็นเรื่องอมตะที่ยังไม่เลิกเม้าท์กันเสียที..อิอิอิ

เหมือนกับการขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้น STECON ก็มาจากเรื่อง “เสี่ยหนู” เถลิงอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ซึ่งหลายคนเชื่อว่า บริษัทนี้จะได้รับประโยชน์จากโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่กำลังจะคลอดออกมา บรรดานกรู้เลยไล่ราคาหุ้นกันอย่างเมามัน จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.80 บาท บวกไป 1.05 บาท หรือขึ้นไป 13.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.20 พันล้านบาทแบบนี้..มันเป็นช็อตที่ต้องยอมให้เขาจริง ๆ เจ้าค่ะ

ในเมื่อฟากน้ำเงินมาแรงเหลือเกิน ก็ต้องเหลือบมองหุ้น AOT ไว้บ้างเช่นกัน เพราะเมื่อเช็กขุมข่ายที่เกี่ยวพันทั้งทางตรงและทางอ้อม อีฉันก็มองว่า นี่เป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าจับตาเช่นกัน และการที่หุ้นค่อย ๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 38.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 พันล้านบาท ก็เป็นจังหวะที่เหมาะต่อการไหลตามน้ำ เพราะเที่ยวก่อนก็เคยเห็นหุ้นขึ้นไปแถว 43 บาทนะนายจ๋า

ส่วนเสือซุ่มอย่างน้องฟ้า SKY ก็เป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่ใส่ได้ยาว ๆ เพราะแค่มองเรื่องการเทรดบน PE 17 เท่าในจังหวะที่กำไรครึ่งปีแรกโตดี และในครึ่งปีหลังก็ยังโตได้อีก มันทำให้หุ้นตัวนี้กลับมามีชื่อในแถวหน้าอีกครั้ง “โมนิก้า” เลยสังหรณ์ใจว่า ในไม่ช้าจะมีการไล่ราคาหุ้นแบบจัดเต็ม หลังหุ้นเริ่มขยับขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 14.80 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24 ล้านบาทแล้วนะซี

ประเด็นข้างต้นเชื่อมโยงไปถึงหุ้น EA ด้วยเช่นกัน เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 2.82 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 718 ล้านบาท ท่ามกลางความคาดหวังจะคัมแบ็กอย่างเต็มตัว โดยมีเรื่องรถเมล์ไฟฟ้ามาเป็นแบ็กอัพแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องตามไปดูอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์หลายอย่างในวันนี้ มันต่างจากวันวานอย่างสิ้นเชิงนะออเจ้า

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น KTC ที่วันนี้ต้องดูกันที่เรื่องของพื้นฐานมากกว่าเรื่องของผู้ถือหุ้น เพราะสิ่งที่ทำให้ราคาหุ้นตกต่ำก่อนหน้านี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และในเมื่อทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น “โมนิก้า” เลยเชื่อว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 29.50 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 807 ล้านบาท คือบันไดอีกขั้นที่จะทำให้หุ้นไปต่อยาว ๆ พะยะค่ะ

โมนิก้าและทีมงาน