
โบรกคัด 3 หุ้น “การบิน-โรงแรม” ตัวท็อป ลุ้นกำไร Q3 โตแกร่ง รับนักท่องเที่ยวฟื้น
“บล.ดาโอ” เผยนักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ล่าสุดแตะ 5.08 แสนคน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน หนุน CENTEL-ERW ฟื้นตัว ส่วน “บล.กรุงศรี” ยังมองบวกกลุ่มสายการบิน ชู BA เป็นหุ้นเด่น ราคาเป้าหมาย 23.50 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ตัวเลขข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ล่าสุด ระหว่างวันที่ 1-7 กันยายน 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 508,341 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ยังคงลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นนักท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละ 72,620 คน
โดยประเทศที่มีการเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นได้แก่ สิงคโปร์ 21,348 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 จากสัปดาห์ก่อนหน้า และจากการเดินทางในช่วงปิดภาคเรียนทำให้นักท่องเที่ยวสิงคโปร์ขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มตลาดใหญ่อันดับ 5 จากเดิมอยู่อันดับ 9 อินเดีย 48,580 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากสัปดาห์ก่อนหน้า และร้อยละ 44 เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนผลจากวันหยุดยาวต่อเนื่องภายในประเทศ และรัสเซีย 16,186 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากสัปดาห์ก่อนหน้า และร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับปีก่อน
ส่วนประเทศที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาลดลง ได้แก่ มาเลเซีย 85,639 คน ลดลงร้อยละ 15 จากสัปดาห์ก่อนหน้า และลดลงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับปีก่อน เกาหลีใต้ 23,254 คน ลดลงร้อยละ 6 จากสัปดาห์ก่อนหน้า และลดลงร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับปีก่อน และจีน 67,545 คน ลดลงร้อยละ 5 จากสัปดาห์ก่อนหน้า และลดลงร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ยังคงเป็นการหดตัวสูง แต่ตัวเลขปรับดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่หดตัวราวร้อยละ 40
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมองว่า แม้จำนวนนักท่องเที่ยวรวมยังทรงตัวได้จากแรงหนุนของสิงคโปร์ อินเดีย และรัสเซีย แต่ทิศทางการท่องเที่ยวโดยรวมยังอยู่ในช่วงชะลอตามฤดูกาล ซึ่งโดยปกติระหว่างกลางเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนกันยายนจำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลง ขณะที่สัญญาณเชิงบวกคือจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มฟื้นตัวหากเทียบกับช่วงก่อนหน้า
ขณะที่ข้อมูลสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 7 กันยายน 2568 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 22,387,817 คน ลดลงร้อยละ 7 จากปีก่อน โดยการลดลงดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น
โดยฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมตลอดปี 2568 ที่ 34.5 ล้านคน ลดลงร้อยละ 3 จากปีก่อน และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 5 ล้านคน ลดลงร้อยละ 26 จากปีก่อน โดยประเมินว่าการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มเห็นชัดเจนในไตรมาส 4 ปี 2568
ด้านกลยุทธ์การลงทุน ดาโอให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มโรงแรม “เท่ากับตลาด” โดยเลือก บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ราคาเป้าหมาย 36 บาท และบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ราคาเป้าหมาย 3 บาท เป็นหุ้นเด่น เนื่องจากแนวโน้มกำไรไตรมาส 3 ปี 2568 จะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน หลังผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ปีนี้ โดย CENTEL มีแรงหนุนจากการจองห้องพักที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ ERW ซื้อขายที่อัตราส่วนราคาต่อกำไร (PER) ปี 2568 เพียง 15 เท่า ซึ่งถือว่าถูกที่สุดเมื่อเทียบกับ MINT และ CENTEL ที่ 16 เท่า และ 21 เท่าตามลำดับ ทั้งยังมีโอกาสพลิกฟื้นผลประกอบการชัดเจนขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด เปิดเผยบทวิเคราะห์ว่า ยังคงน้ำหนัก Neutral ในกลุ่มการบิน โดยมองว่าอุตสาหกรรมได้ผ่านจุดสูงสุดของการฟื้นตัวจากความต้องการเดินทางสะสม (Pent-up demand) หลังโควิด-19 คลี่คลายไปแล้ว ส่งผลให้แนวโน้มผลประกอบการปี 2568-2569 อาจเติบโตชะลอลง ขณะเดียวกันยังเผชิญความเสี่ยงจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเลือกหุ้น บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA เป็นหุ้น Top pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 23.50 บาท จากปัจจัยเด่น ได้แก่ 1) เส้นทางบินสมุยยังเติบโตแข็งแกร่งโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรป 2) คาดการณ์กำไรไตรมาส 3/2568 จะเติบโตเด่นที่สุดเมื่อเทียบรายไตรมาสภายในกลุ่ม 3) ความคืบหน้าโครงการพัฒนาอู่ตะเภา หากมีการยกเลิกจะช่วยลดความเสี่ยงจากภาระลงทุนสูงในอนาคต และ 4) ราคาหุ้นปัจจุบันถูกกว่ากลุ่ม โดยมีค่าอัตราส่วนราคาต่อกำไร (PE) ปี 2568 อยู่ที่ 9-10 เท่า ต่ำกว่าหุ้นการบินไทย (THAI) ซึ่งอยู่ที่ 15-16 เท่า ขณะเดียวกันคาดการณ์ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลราว 5% ต่อปี