NUT บวกแรง 7% ลั่น Q4 โตรับไฮซีซั่น ลุยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ลดต้นทุนดันกำไรปีนี้โต
NUT บวกแรง 7% แย้มยอดขายไตรมาส 3/68 เพิ่มขึ้น รับแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “อาหารเสริม-เครื่องสำอาง” ส่วนไตรมาส 4/68 คาดโตเด่น รับไฮซีซั่นธุรกิจ พร้อมมุ่งบริหารลดต้นทุน ดันกำไรปีนี้โตกว่าปีก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานงว่า วันนี้(12 ก.ย.68) ราคาหุ้นบริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT ณ 16:03น.อยู่ที่ระดับ 5.50 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 6.80% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 23.72 ล้านบาท
นายพุทธิวัฒน์ กิตติภานุวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2568 หลังจากผ่านไป 2 เดือน (กรกฎาคม-สิงหาคม) ยอดขายสามารถเติบโตได้เล็กน้อย และเตรียมออกสินค้าใหม่ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอางเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันช่วงปลายปี
ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/2568 บริษัทคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์เดิมในเครือ ทั้งผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์ของบริษัทเอง (House Brand) ผลิตภัณฑ์ตราสินค้าร่วม (Co-Brand) ผลิตภัณฑ์ขายร่วม (Co-Product) และการรับจ้างผลิต (OEM) มียอดขายที่สูงขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกในช่วงไตรมาส 3/2568 จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีในไตรมาสนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายช่องทางการจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตในตลาดอาหารเสริมสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันตลาดมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับประชากรที่หันมาสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการเลือกบริโภคอาหารเสริม เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
นอกจากนี้บริษัทมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้กลุ่มลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำไม่น้อยกว่า 60% จากปัจจุบันที่บริษัทมีฐานลูกค้าสมาชิกมากกว่า 1.41 ล้านราย ซึ่งบริษัทจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ และการโทรติดตามลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถรักษาฐานลูกค้าได้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งได้มีการนำ AI หรือเทคโนโลยีภายใต้โครงการ NUT Voice เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโทรหาลูกค้าเพิ่มเติมด้วย
ส่วนความสามารถในการรองรับการเติบโตยังมีอีกมาก เนื่องจากบริษัทได้มีการขยายกำลังการผลิตไว้รองรับในอนาคตแล้ว และไม่ต้องมีการลงทุนเพิ่ม โดยปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตในรูปแบบเม็ดตอก 4,680,000-8,320,000 เม็ดต่อเดือน การผลิตในรูปแบบผงชงดื่ม 1,040,000 ซองต่อเดือน การผลิตในรูปแบบซอฟท์เจล 2,210,000 เม็ดต่อเดือน และการผลิตในรูปแบบแคปซูล 850,000 เม็ดต่อเดือน นอกจากนี้ บริษัทพยายามบริหารเพื่อลดต้นทุนการขายสินค้า เพื่อสร้างผลกำไรของปี 2568 ให้เติบโตมากกว่าปี 2567