
FVC แจงคดีปั่นหุ้น ย้ำผู้บริหารไม่เอี่ยว ดำเนินธุรกิจโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล
FVC ออกแถลงการณ์กรณีมีข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีปั่นหุ้นข้องตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยืนยันกรรมการและผู้บริหารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์ใด ๆ จากเหตุการณ์ดังกล่าวย้ำโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล พร้อมยืนยันไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.ย 68) บริษัท ฟิลเตอร์ วิชัน จำกัด (มหาชน) หรือ FVC ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมผู้ต้องหา ในข้อกล่าวหาร่วมกันสร้างราคาและปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ของ FVC เพื่อให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยืนยันว่า กรรมการและผู้บริหารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือได้ประโยชน์ใด ๆ จากกรณีดังกล่าว และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด
บริษัทฯ ขอยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี และพร้อมดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น
โดยประเด็นดังกล่าวข้างต้น เกิดจากทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ซึ่งกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) แถลงผลการจับกุม นายอนุพนธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาร่วมกันสร้างราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นของ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC ให้ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด
คดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาหลายรายร่วมขบวนการ โดยวางแผนส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อจูงใจนักลงทุนรายย่อยเข้าสู่การเก็งกำไร ส่งผลบิดเบือนกลไกตลาดและสร้างความเสียหายหลายร้อยล้านบาท หนึ่งในผู้ต้องหาหลักถูกระบุว่าเป็นอินฟลูเอนเซอร์นักลงทุนชื่อดังที่มีบทบาทในชักชวนผู้เสียหายเข้าร่วมเครือข่าย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามและจับกุมได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ตำรวจยืนยันว่าจะเร่งขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด โดยเฉพาะตัวการสำคัญ เพื่อให้คดีปั่นหุ้นครั้งนี้ได้รับการดำเนินคดีจนถึงที่สุด และเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย
พร้อมกันนั้น CIB และหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนได้ออกคำเตือนต่อประชาชนว่า การปั่นหุ้นหรือการสร้างราคาหลักทรัพย์ให้ผิดไปจากกลไกตลาด ไม่ว่าจะเป็นการส่งคำสั่งซื้อขายต่อเนื่อง การตกลงร่วมกันกำหนดราคา หรือการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ถือเป็นความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีโทษทั้งทางอาญาและสร้างความเสียหายต่อนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนจึงควรใช้ความระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อคำชักชวนที่อ้างผลตอบแทนสูงผิดปกติ และตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งทางการก่อนตัดสินใจลงทุน

