“อนุทิน” เผยทูลเกล้าฯ รายชื่อ ครม. สัปดาห์นี้ – ถก ส.อ.ท. เร่งแก้เศรษฐกิจ

นายกฯ “อนุทิน” นำว่าที่รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ร่วมหารือประธาน ส.อ.ท. แก้เศรษฐกิจ ควบคู่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเผยเตรียมนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ก.ย.68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เข้าหารือกับคณะผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำโดยนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ อาทิ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายอนุทิน เปิดเผยระหว่างการประชุมว่า รัฐบาลจะทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสัปดาห์นี้ พร้อมย้ำว่าการทำงานของรัฐบาลต้องเดินไปกับภาคเอกชน โดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจไทยต้องการแรงขับเคลื่อนทั้งระยะสั้นและวางรากฐานระยะยาว

โดยย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาเฉพาะหน้า ทั้งเศรษฐกิจและความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา ยืนยันว่า การเปิดด่านชายแดนจะไม่เกิดขึ้นในระยะสั้น หากยังไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ไทยกำหนด พร้อมใช้ทุกช่องทางทั้งการทูตและการหารือทวิภาคีเพื่อแก้ปัญหาอย่างรอบด้าน

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงผู้ประกอบการในโครงการ Thailand Plus One ส่วนของกลุ่มประเทศ CLMV ว่า มีแนวคิดที่จะต้อง Matching กับไทย โดยเฉพาะ Local Content ที่เคยทำกับประเทศเพื่อนบ้าน จะต้องลงทุนผลิตในประเทศไทยแทน ดังนั้น คำว่า Local Content เป็นคำที่รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนและให้ความสำคัญมาก พร้อมทั้งใช้เป็นเครื่องมือในการเจรจากับประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยที่มีการกำหนดข้อบังคับเข้ามา ซึ่งถือว่า ประเทศไทยไม่ได้ด้อยกว่าประเทศอื่น เพียงแต่ยังมีเงื่อนไข โดยเฉพาะการแปลงร่าง Local Content ที่ถูกกำหนดขึ้นมา ซึ่งตนมองว่าเป็นโอกาสที่ดี ทำให้ไทยสามารถผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปสหรัฐอเมริกาได้

หากมีปัญหาเกิดขึ้น ก็ควรต้องส่งเสริมการลงทุนให้มากขึ้น ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ เพราะเมื่อ 20–30 ปีก่อน ประเทศไทยเริ่มอุตสาหกรรมด้วยการเป็น OEM (Original Equipment Manufacturer) แต่ครั้งนี้ไม่ควรเป็นเพียงการรับจ้างผลิตหรือรับจ้างประกอบ แต่ต้องเริ่มจากการเปิดช่องทางเศรษฐกิจ ถือเป็นโอกาสที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัว ซึ่งรัฐบาลเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาได้วางรากฐานเอาไว้แล้ว

ดังนั้น ขณะนี้ประเทศไทยจำเป็นต้องพึ่งพาตัวเองมากขึ้น เนื่องจากคู่แข่งภายนอกเกิดขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะเวียดนามและกัมพูชา ที่ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในภาคอุตสาหกรรม และเรื่องนี้จำเป็นต้องมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย

“ดรีมทีม จะเป็น เรียลทีม ไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก เราจะใช้หลักการทำงานเป็นทีม เพื่อพัฒนาประเทศชาติ” นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่ง

ภายหลังการประชุม นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีการส่งออกทองคำ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นปัจจัยกดดันให้เงินบาทแข็งค่า โดยระบุว่า ได้มอบหมายให้นายเอกนิติ ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบความผิดปกติจะต้องดำเนินการทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด สำนักเลขาธิการครม. ได้แจ้งหน่วยงานภายในให้รับทราบว่า งดการประชุม ครม. ในวันอังคาร ที่ 16 กันยายน 2568

Back to top button