CGSI คาดกรอบ SET วันนี้ 1,250-1,265 จุด ชูหุ้นเด่น SCB-PTTEP

ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่าสรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (17 ธ.ค.68) ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,885.97 จุด ลดลง 228.29 จุด หรือ -0.47%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,721.43 จุด ลดลง 78.83 จุด หรือ -1.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,693.32 จุด ลดลง 418.14 จุด หรือ -1.81%

ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันพุธ (17 ธ.ค.68) โดยการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกหักล้างโดยการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน ท่ามกลางความกังวลที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่พุ่งสูงขึ้นจากกระแสปัญญาประดิษฐ์

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 579.79 จุด ลดลง 0.01 จุด หรือ -0.002%

สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ  สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (17 ธ.ค.68) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงาน นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 41.60 ดอลลาร์ หรือ 0.96% ปิดที่ 4,373.90 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.29% ปิดที่ 59.68 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์กรอบ SET Index 1,250-1,265 จุด โดย ตลาดแทบไม่ตอบรับ หรือ priced-in ประเด็น คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติเป็นเอกฉันท์ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.25% (สอดคล้องกับที่เราคาด) เนื่องจากเราเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยในปี 2569 ว่าจะอยู่ที่ 0.75% หรือ ยังลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากอัตราการเติบโตของ GDP ไทยในปี 2569ยังคงต่ำกว่า 2% และ แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อใกล้ศูนย์ รวมถึง ความเสี่ยงรอบด้าน ทั้งความไม่แน่นอนทางการเมือง, ไทย-กัมพูชา, ท่องเที่ยวยังไม่กลับไปก่อนช่วง COVID-19 และ ภาษีศุลกากร

หุ้นแนะนำ มีดังนี้

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB จากการคาดการณ์ของทางฝ่ายวิจัย กำไรสุทธิจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์จะคิดเป็น 92-95% ของกำไรสุทธิรวมทั้งหมดของ SCB ในอีกสามปีข้างหน้า โดยสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของทางฝ่ายวิจัยชี้ให้เห็นว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะลดลงเหลือ 7.0-7.3% ในปี 2026-2027 ซึ่งยังคงสูงกว่าตลาดหุ้นไทยที่ 4% อย่างมีนัยสำคัญ (Take profit : 136.50 / Stop loss : 133.00)

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ประกาศเข้าซื้อหุ้นในแหล่งน้ำมัน SK408 ในประเทศมาเลเซีย ด้วยมูลค่าประมาณ 312-364 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิจากสินทรัพย์ดังกล่าวอาจสูงถึง 580-624 ล้านบาท ในช่วงปี 2569-2572 ก่อนที่จะลดลงเหลือ 300-450 ล้านบาท ในช่วงปี 2580-2582 เชื่อว่าการเข้าซื้อ SK408 เป็นการลงทุนที่สร้างมูลค่าเพิ่ม (Take profit : 110.00 / Stop loss : 107.00)