Chartered Group ยันไม่เกี่ยว “เบน เบอร์เกอร์-ทักษิณ-ฮุนเซน” จ่อฟ้องคนเต้าข่าวทำเสียหาย

กลุ่ม Chartered Group ออกแถลงการณ์ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง "เบน เบอร์เกอร์" และนักการเมืองไทย-กัมพูชา หลังถูกโยงข่าวลือสะพัดโลกออนไลน์ เตรียมเดินหน้าดำเนินคดีทางกฎหมายขั้นสูงสุดกับผู้เผยแพร่ข้อมูลเท็จที่สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงบริษัท พร้อมย้ำความเชื่อมั่นการลงทุนในไทยไม่สั่นคลอน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้(15 ก.ย. 68) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเปิดเผยเอกสารชี้แจงจาก บริษัท โอปุส-ชาร์เตอร์ด อิชชูแอนเซสซ์ แอส.อา. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ MFC เพื่อทำความเข้าใจกับผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้น กรณีมีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการลงทุนของบริษัท

โดยเนื้อหาในเอกสารดังกล่าวระบุว่า กลุ่มบริษัท Chartered Group ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนระดับโลกที่บริหารและลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในหลายประเทศได้ออกประกาศฉบับพิเศษอย่างเป็นทางการในวันนี้ว่า กลุ่มบริษัทจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อบุคคลและนิติบุคคลที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จและเนื้อหาที่เป็นการหมิ่นประมาทในสื่อและเครือข่ายสังคมออนไลน์  โดยกล่าวอ้างหรือสร้างความเข้าใจว่า กลุ่มบริษัทมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมืองหรือพรรคการเมืองในประเทศไทยหรือบุคคลและ/หรือกลุ่ม บุคคลบางรายที่ปรากฏในสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนใน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC และ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI

กลุ่มบริษัท Chartered Group ขอยืนยันอย่างชัดเจนว่ากลุ่มบริษัทไม่เคยมีและไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ โดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมกับนักการเมือง พรรคการเมือง หรือบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ปรากฏในสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน การดำเนินธุรกิจทั้งหมดของกลุ่มบริษัทเป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดด้านกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

กลุ่มบริษัท Chartered Group ยังย้ำว่า กลุ่มบริษัทมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งในศักยภาพของเศรษฐกิจไทยและโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในประเทศไทย และจากความเชื่อมั่นดังกล่าวทำให้กลุ่มบริษัทมุ่งมั่นที่จะขยายความร่วมมือทางธุรกิจและการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กลุ่มบริษัทขอแจ้งเพิ่มเติมว่า ความพยายามใด ๆ ที่จะทำลายชื่อเสียงของกลุ่มบริษัทด้วยการเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือพรรคการเมืองหรือบุคคลและ/หรือกลุ่มบุคคลบางรายที่ปรากฏในสื่อ สิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์จะได้รับการตอบโต้ด้วยมาตรการที่เด็ดขาดและไม่ประนีประนอม รวมถึงการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อทุกฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ

อนึ่ง ความพยายามที่จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของกลุ่มบริษัทด้วยการเผยแพร่ข่าวปลอมหรือข้อมูลอันเป็นเท็จที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันจะไม่ประสบผลสำเร็จและไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทในประเทศไทย กลุ่มบริษัทจะยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นมืออาชีพและรักษามาตรฐานสูงสุดในการบริหารการลงทุนและกระบวนการทางธุรกิจทั่วโลก

การออกแถลงการณ์ของกลุ่มบริษัท Chartered Group ดังกล่าวสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนต่างประเทศและในประเทศไทย  ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ ‘เบน สมิธ’ ซึ่งถูกระบุชื่อในบทความของ นายทอม ไรต์ สื่อมวลชนอิสระ อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าววอลสตรีทเจอร์นัล (WSJ) และหนึ่งในผู้สื่อข่าวที่เปิดโปงการทุจริต เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาของรัฐ “1 มาเลเซีย ดีเวลอปเมนต์ เบอร์ฮัด” (1MDB) ที่เผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ Whalehunting.projectbrazen.com ว่า นายเบนจามิน เป็นนายหน้าขายเครื่องบินส่วนตัวให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายยิม เลียก ประธานกลุ่มบริษัท B.I.C ของกัมพูชา ซึ่งเป็นพันธมิตรของ นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่า นายเบนจามิน เป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจคนสำคัญให้กับนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลในประเทศไทย คือ นายทักษิณ ชินวัตร โดยนายเบนจามิน จะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ และการตัดสินใจในหลายเรื่องต้องผ่านความเห็นของ นายเบนจามิน อีกด้วย

ขณะเดียวยังมีการนำเสนอข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง CAPITAL ASIA INVESTMENTS PTE. LTD. , CAI OPTIMUM FUND VCC , CGS INTERNATIONAL SECURITIES SINGAPORE PTE. LTD. ซึ่งเข้ามาทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP กับ APSARA HOLDING PTE.LTD. ซึ่งเป็นบริษัทที่นายยิม เลียก (LEAK YIM) เป็นเจ้าของ

โดยการนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้มีลักษณะของการสรุปว่า นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ และภรรยา น.ส.แคทรียา บีเวอร์ กำลังบริหารเครือข่ายบริษัทที่ซับซ้อน เพื่อใช้เงินทุนจากต่างประเทศเข้าซื้อหุ้นในบริษัทใหญ่ของไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุม บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานใหญ่อันดับสองของไทย ทั้งนี้บริษัทจัดการกองทุน Capital Asia Investments (CAI) ที่ถูกอ้างว่าเป็นเครือข่ายของนายเบนจามิน โดยมีน.ส.แคทรียา เป็นผู้บริหารกองทุน Capital Asia Investments โดยตรง ร่วมกับนาย Eugene Tang ผู้บริหารชาวสิงคโปร์ของบริษัท CAI ตามเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ มีความเชื่อมโยงในลักษณะที่้เป็นกลุ่มทุนเดียวกันกับ Chartered Group เนื่องจาก CAI ได้เข้าถือหุ้น 14% ในบริษัทบางจากก่อนหน้านี้ และจากนั้นในเดือนมีนาคม 2568 ได้ดำเนินการขายหุ้น 9% ต่อให้กับบริษัท Alpha Chartered ซึ่งอยู่ในเครือของ Chartered Group

อย่างไรก็ดี ทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจ” อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า CAI ที่มีการอ้างถึงว่านายเบนจามินเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง หรือเป็นผู้ชักใยธุรกรรมซับซ้อนทั้งหมดนั้น มีความเชื่อมโยงในลักษณะที่้เป็นกลุ่มทุนเดียวกับ Chartered Group จริงหรือไม่ ทั้งนี้บุคคลใกล้ชิดผู้ได้รับผลประโยชน์แท้จริง หรือ Beneficial Owner ของ Chartered Group เปิดเผยกับทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจ“ ว่าผู้ที่มีส่วนได้เสียแท้จริง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับนายเบนจามินแต่อย่างใด เป็นกลุ่มทุนคนละกลุ่มโดยสิ้นเชิงโดยจะมีการเปิดเผยตัวตน รวมถึงชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดในเร็ววันนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม ทีมข่าว ”ข่าวหุ้นธุรกิจ“ จะรายงานให้ทราบต่อไป

Back to top button