
สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้
สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 10 มี.ค.59
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.42 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.56/61 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0965 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0982/0987 ดอลลาร์/ยูโร
– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,379.06 ลดลง 11.60 จุด (-0.83%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 49,490 ล้านบาท
– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 226.19 ลบ.(SET+MAI)
– นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปีนี้จะเติบโต 5% จากมูลค่าตลาดในปีก่อนที่ 3.6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่จะหมดอายุภายในวันที่ 28 เมษายน 59 ขณะเดียวกันโครงการบ้านประชารัฐนั้น กระทรวงการคลังจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ และจะสามารถเริ่มโครงการได้ทันที
– นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมจะเร่งโครงการของภาครัฐ 20 โครงการ และเพิ่มอีก 3 โครงการ ให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้ ซึ่งล่าสุดได้มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ประกาศใช้มาตรา 44 ให้โครงการภาครัฐสามารถเปิดประกวดราคาโครงการที่ยังติดขั้นตอนการพิจารณา EIA
ส่วนการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้หารือกับนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังแล้ว ที่จะนำโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง (GreenField) เข้าเป็นทรัพย์สินในกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ จึงต้องปรับเงื่อนไขในกองทุน ทั้งนี้จะนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) พิจารณาในเดือนหน้า (เม.ย.)
– ผลการวิจัยของ HSBC เปิดเผยว่าเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จีนประจำปี 2559 ล่าสุดที่ระดับ 6.5%-7.0% จากระดับ 7% ของปีที่แล้ว และกำหนดอัตราการขยายตัวรายปีโดยเฉลี่ยเอาไว้อย่างน้อย 6.5% ไปจนถึงปี 2563 นั้น มีความเป็นไปได้จริง และสอดคล้องกับศักยภาพการเติบโตของประเทศ แม้เศรษฐกิจจีนในปัจจุบันจะชะลอตัวลง โดย HSBC ยังคงมีความเชื่อมั่นในการปฏิรูปด้านอุปทานและการอำนวยความสะดวกของผู้กำหนดนโยบายเพื่อเพิ่มอุปสงค์
– เหยา จิงหยวน นักวิจัยประจำสำนักที่ปรึกษาแห่งสภารัฐจีน เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มอัตราส่วนการขาดดุลงบประมาณต่อตัวเลข GDP ขึ้นเป็น 3% ในปีนี้ จากปีที่แล้วที่ระดับ 2.3% นั้น จะช่วยให้จีนบรรลุเป้าหมายการเอาชนะเงินฝืด โดยอัตราส่วนการขาดดุลต่อ GDP ที่ระดับดังกล่าวนั้น จะช่วยสนับสนุนการปฏิรูปโครงสร้าง จัดการกับประเด็นขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานาน และรักษาเสถียรภาพทางสังคม
– ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม โดยคาดว่า ECB อาจทำการเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งขณะนี้มีวงเงินอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน
นอกจากนี้ คาดว่า ECB อาจทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่นำเงินมาฝากไว้ที่ ECB จากขณะนี้ที่ระดับ -0.3% โดยธนาคารพาณิชย์จะต้องเป็นฝ่ายจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์