REIC โชว์ยอด “ต่างชาติ” ซื้อคอนโด Q2 แตะ 1.23 หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำบทวิเคราะห์ เรื่อง “สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาส 2 ปี 2568” พบว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้ซื้อที่ยังชะลอตัว แต่เมื่อเทียบกับสัดส่วนในภาพรวมทั้งด้านจำนวนหน่วยและมูลค่ายังคงเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ชาวจีน ยังคงเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักทั้งในแง่จำนวนหน่วยและมูลค่า แม้จะมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน โดยมีสัดส่วน 1 ใน 3 ของตลาด

ขณะที่ ผู้ซื้อจาก สหราชอาณาจักร โดดเด่นด้วยมูลค่าการโอนเฉลี่ยต่อหน่วยที่สูงที่สุด แสดงถึงความสมดุลระหว่างความต้องการเพื่ออยู่อาศัยจริงและการลงทุนในตลาดต่างชาติ อย่างไรก็ตามการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศในช่วงครึ่งแรกปี 2568 (มกราคม – มิถุนายน) ลดลงทั้งจำนวนและมูลค่าเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้มีผลโดยตรงต่อกำลังซื้อ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

โดยสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาส 2 ปี 2568 มีจำนวน 3,248 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 12,318 ล้านบาท และมีพื้นที่รวม 134,270 ตารางเมตร ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจำนวนหน่วยลดลงร้อยละ 2.2 ส่วนมูลค่าลดลงร้อยละ 16.9 และพื้นที่ลดลงร้อยละ 11.4 สะท้อนถึงการชะลอตัวของตลาดในไตรมาสนี้

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติเมื่อเทียบกับตลาดรวมยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 13.9 ของจำนวนหน่วยทั้งหมดและร้อยละ 23.1 ของมูลค่ารวมเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ร้อยละ 11.7 และ ร้อยละ 21.1 ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นว่าตลาดต่างชาติยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดห้องชุดไทย

จำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ห้องชุดที่โอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติทั่วประเทศไตรมาส 2 ปี 2568 พบว่า มีจำนวน 3,248 หน่วย ลดลงร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่า 12,318 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 16.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และพื้นที่ห้องชุดที่โอนกรรมสิทธิ์รวม 134,270 ตารางเมตร ลดลงร้อยละ 11.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (รายละเอียดตามแผนภูมิที่ 1 ถึงแผนภูมิที่ 6)

แผนภูมิที่ 1 จำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ

แผนภูมิที่ 2 อัตราขยายตัวของจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ

แผนภูมิที่ 3 มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ (หน่วย : ล้านบาท)

แผนภูมิที่ 4 อัตราขยายตัวของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ

แผนภูมิที่ 5 พื้นที่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ (หน่วย : ตารางเมตร)

แผนภูมิที่ 6 อัตราขยายตัวของพื้นที่การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ

สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติในไตรมาส 2 ปี 2568 พบว่า มีสัดส่วนร้อยละ 13.9 โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีสัดส่วนร้อยละ 11.7 และมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ มีสัดส่วนร้อยละ 23.1 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วนร้อยละ 21.1 (รายละเอียดตามแผนภูมิที่ 7 และ 8)

แผนภูมิที่ 7 สัดส่วนจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ

แผนภูมิที่ 8 สัดส่วนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศ (หน่วย : ล้านบาท)

การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศครึ่งแรกปี 2568 (มกราคม – มิถุนายน) พบว่า มีจำนวน 7,167 หน่วย ลดลงร้อยละ 1.3 โดยมีมูลค่า 28,711 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสัญชาติของผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวจีน อย่างไรก็ตามทั้งจำนวนและมูลค่านี้ลดลงจากปีก่อน เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้มีผลโดยตรงต่อกำลังซื้อ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น

ส่วนขนาดและราคาห้องชุดเฉลี่ยในช่วงครึ่งแรกปี 2568 มีขนาดเฉลี่ย 41.7 ตารางเมตร มูลค่าเฉลี่ย 4.0 ล้านบาทต่อหน่วย หรือประมาณตารางเมตรละ 96,136 บาท ทั้งนี้ สัญชาติที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด 10 ลำดับแรก พบว่า สหราชอาณาจักรเป็นสัญชาติที่มีทั้งมูลค่าการโอนต่อหน่วยและขนาดห้องใหญ่ที่สุด โดยมูลค่าการโอนต่อหน่วยเฉลี่ย 5.15 ล้านบาทต่อหน่วย และขนาดห้องเฉลี่ย 57.5 ตารางเมตร ส่วนชาวจีนเป็นสัญชาติที่มีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุด โดยมีมูลค่าการโอนเฉลี่ย 4.0 ล้านบาทต่อหน่วย และพื้นที่ห้องชุดเฉลี่ย 36.6 ตารางเมตร (รายละเอียดตามตารางที่ 1)