“เงินบาท” เช้านี้เปิดอ่อนค่า 32.45 บ./ดอลลาร์
“ค่าเงินบาท” เช้าวันนี้เปิดอ่อนค่า 32.45 บาท/ดอลลาร์ หลังรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดหน่วยงานครั้งแรกในรอบ 7 ปี กดดันบรรยากาศลงทุน ขณะข้อมูลแรงงานแย่เกินคาดเพิ่มความไม่แน่นอนต่อ “เฟด”
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีเอ็มบีธนชาต) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้าวันที่ 2 ตุลาคม 2568 เปิดตลาดที่ระดับ 32.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.35 บาทต่อดอลลาร์ ท่ามกลางแรงกดดันจากสถานการณ์ปิดการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี และเป็นครั้งที่ 3 ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยการชัตดาวน์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังร่างกฎหมายงบประมาณที่สนับสนุนโดยพรรครีพับลิกันไม่ผ่านการลงคะแนนเสียงในวุฒิสภา และยังไม่มีท่าทีทางออกที่ชัดเจนจากความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมือง
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังซบเซาจากการชะลอตัวของธุรกรรมผู้นำเข้า เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวในเทศกาลวันชาติของจีน ขณะเดียวกัน ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) เดือนกันยายนของสหรัฐปรับลดลง 32,000 ตำแหน่ง ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 52,000 ตำแหน่ง สะท้อนสัญญาณอ่อนแอของตลาดแรงงาน และอาจส่งผลต่อการตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเฉพาะหากการเปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในปลายสัปดาห์นี้ล่าช้าออกไป ซึ่งเป็นข้อมูลหลักที่เฟดใช้ประกอบการพิจารณานโยบายดอกเบี้ย ความไม่แน่นอนดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำ โดยมีการประเมินว่าราคาทองคำอาจแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
ด้านกระแสเงินทุนเคลื่อนไหว วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 322 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,387 ล้านบาท สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวค่าเงินวันนี้ ธนาคารคาดว่า
ดอลลาร์สหรัฐต่อบาท (USD/THB) อยู่ที่ 32.35–32.60 บาท แนะนำทยอยซื้อที่ระดับ 32.35 บาท
ยูโรต่อบาท (EUR/THB) อยู่ที่ 37.90–38.40 บาท แนะนำทยอยซื้อที่ระดับ 37.90 บาท
เยนต่อบาท (JPY/THB) อยู่ที่ 0.2180–0.2220 บาท แนะนำทยอยซื้อที่ระดับ 0.2180 บาท
ขณะที่ปอนด์สเตอร์ลิงต่อบาท (GBP/THB) อยู่ที่ 43.60–44.00 บาท และดอลลาร์ออสเตรเลียต่อบาท (AUD/THB) อยู่ที่ 21.30–21.70 บาท