กทม.-รฟม. เตรียมรื้อถอน “สน.สามเสน” หลังพบโครงสร้างอาคารเสี่ยงทรุดตัว

กรุงเทพมหานครร่วมหารือกับรฟม. เร่งประเมินสั่งรื้อถอน “สน.สามเสน” ภายหลังพบดินสไลด์และเสาอาคารขาดเพิ่มจากเหตุถนนสามเสนทรุดตัว ขณะเตรียมเสริมความมั่นคงในพื้นที่และตรวจสอบอาคารใกล้เคียงทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายขยายวงกว้าง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ต.ค. 2568) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขและซ่อมแซมบริเวณถนนสามเสน หน้ารพ.วชิรพยาบาล หลังเกิดเหตุทรุดตัวเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา โดยได้กำชับให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน–ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) สัญญาที่ 1 เร่งดำเนินการประเมินสถานการณ์และคืนสภาพพื้นที่โดยเร็ว เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ร่วมกับนายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) รฟม. ว่า จากการตรวจสอบของคณะทำงานตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหลายหน่วยงาน อาทิ กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักการโยธา กทม. รฟม. ผู้รับจ้างก่อสร้าง และสภาวิศวกร พบว่า พื้นที่ถมทรายที่ดำเนินการก่อนหน้านี้เริ่มเกิดรอยร้าวและดินสไลด์เพิ่มเติม ส่งผลให้เสาต้นที่ 3 ของอาคารสถานีตำรวจนครบาลสามเสน (สน.สามเสน) เกิดการขาดเพิ่มขึ้น จนโครงสร้างอาคารอยู่ในสภาพไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน

ทั้งนี้คณะทำงานจึงมีมติร่วมกันให้ ดำเนินการรื้อถอนอาคาร สน.สามเสนโดยเร่งด่วน เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยระหว่างดำเนินงานแก้ไขพื้นที่ โดยจะให้ รฟม. และผู้รับจ้างก่อสร้างเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด

สำหรับแนวทางดำเนินงาน นายกิตติกร ระบุว่า ขั้นตอนแรกจะดำเนินการ ย้ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่อยู่บริเวณชั้นล่างของอาคารออกทั้งหมด โดยจะเจาะกำแพงด้านหลังเพื่อเปิดทางขนย้าย ก่อนเริ่มรื้อถอนโครงสร้างบางส่วน จากนั้นจะเสริมความมั่นคงของอาคารฝั่งซ้าย เพื่อป้องกันการสไลด์ของดินเพิ่มเติม

พร้อมกันนี้ จะมีการตรวจสอบและประเมินสภาพอาคารใกล้เคียง ได้แก่ แฟลตตำรวจ อาคารโรงพยาบาลวชิรพยาบาล และอาคารห้องแถวของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง แม้จะยังไม่พบความเสียหายหรือการเคลื่อนตัว แต่จะยังคงติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยจะเริ่มดำเนินการตามแผนทันทีหลังการเตรียมพื้นที่แล้วเสร็จ

โดยการถมทรายในจุดเกิดเหตุจะชะลอออกไปก่อน จนกว่าการรื้อถอนอาคาร สน.สามเสน จะแล้วเสร็จ เพื่อป้องกันผลกระทบซ้ำซ้อน โดยทุกขั้นตอนจะให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งอาจทำให้กำหนดการคืนสภาพพื้นที่ล่าช้าเล็กน้อย แต่จะมีการประเมินสถานการณ์และรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่กระทรวงคมนาคมแต่งตั้ง กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อหาสาเหตุของเหตุทรุดตัวอย่างละเอียด โดยจะต้องลงสำรวจพื้นที่ใต้ดินและตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อหาข้อสรุปเชิงวิศวกรรมอย่างเป็นทางการ ส่วนในระยะสั้น รฟม. อยู่ระหว่างการควบคุมความเสียหายไม่ให้ขยายวงกว้างและเร่งคืนพื้นที่ให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด

Back to top button