“หุ้นยุโรป” ปิดบวก รับกลุ่มธนาคารหนุน-แผนลดโควตานำเข้าเหล็กอียู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก เมื่อวันพุธ (8 ต.ค.68) ขานรับแรงหนุนจากตลาดหุ้นฝรั่งเศสและสเปนที่ปรับตัวขึ้นแรง ขณะที่หุ้นกลุ่มเหล็กพุ่งนำตลาด หลังสหภาพยุโรป (EU) ประกาศแผนปรับลดโควตาการนำเข้าเหล็กปลอดภาษีเกือบครึ่งหนึ่ง เพื่อจำกัดอุปทานส่วนเกินจากนอกภูมิภาค

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 573.79 จุด เพิ่มขึ้น 4.52 จุด หรือ +0.79% ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนตลาดหุ้นอื่น ๆ ปิดบวกเช่นกัน ได้แก่ ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 8,060.13 จุด เพิ่มขึ้น 85.28 จุด หรือ +1.07% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 24,597.13 จุด เพิ่มขึ้น 211.35 จุด หรือ +0.87% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 9,548.87 จุด เพิ่มขึ้น 65.29 จุด หรือ +0.69%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสเปนปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 ขณะที่ DAX เยอรมนี ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน หนุนโดยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคารและเหล็ก ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญช่วยพยุงบรรยากาศการลงทุนในตลาดยุโรปโดยรวม

ทั้งนี้ได้รับอานิสงส์จากหุ้นกลุ่มธนาคารปรับขึ้นกว่า 1% นำโดย Lloyds ของอังกฤษ หลังหน่วยงานกำกับดูแลการเงินเสนอกรอบชดเชยผู้บริโภคในกรณีขายไฟแนนซ์รถยนต์เกินจริงในระดับที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ Societe Generale ของฝรั่งเศส และ BPER Banca ของอิตาลี ปรับขึ้นตาม

ด้านหุ้นกลุ่มเหล็กพุ่งขึ้นถ้วนหน้า หลังคณะกรรมาธิการยุโรปเสนอปรับลดโควตาการนำเข้าเหล็กปลอดภาษีลงเกือบครึ่งหนึ่ง หนุนหุ้น ArcelorMittal, Aperam, Thyssenkrupp และ SSAB ปรับขึ้นระหว่าง 4–7% ส่งผลให้ดัชนีกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานโดยรวมบวกกว่า 1.9%

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มยานยนต์ร่วงแรง หลัง BMW ปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2568 เหตุตลาดจีนเติบโตต่ำกว่าคาด และผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลง 8.2% ขณะที่ Mercedes-Benz ลดลง 2.9% กดดันให้ดัชนีกลุ่มยานยนต์โดยรวมร่วง 2.1%

สถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศสยังคงเป็นปัจจัยที่ตลาดจับตา โดยนายกรัฐมนตรีรักษาการ เซบาสเตียน เลอกอร์นู แสดงความหวังว่ารัฐบาลอาจบรรลุข้อตกลงงบประมาณได้ภายในสิ้นปี ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด ทั้งนี้ ตลาดหุ้นฝรั่งเศสยังเป็นหนึ่งในตลาดที่ทำผลงานต่ำสุดของยุโรปในปีนี้ โดยปรับขึ้นเพียง 9% นับตั้งแต่ต้นปี ต่ำกว่าตลาดหลักอื่นที่ขยับขึ้นระดับสองหลัก

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง 0.6% หลังหุ้นเซมิคอนดักเตอร์อย่าง ASML และ ASMI ร่วงตามแรงขาย ภายหลังสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เรียกร้องให้ขยายขอบเขตการห้ามส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปให้จีน

ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจ กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของ GDP ปี 2568 ขึ้นเป็น 0.2% จากเดิมที่คาดว่าจะทรงตัว โดยระบุว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

หุ้นรายตัวที่เคลื่อนไหวโดดเด่น ได้แก่ Puma พุ่ง 6.8% หลัง BofA Global Research ปรับคำแนะนำจาก “ต่ำกว่าตลาด” เป็น “ถือ” ส่วน Umicore ของเบลเยียม พุ่ง 5.5% หลังประกาศขายทองคำในสต็อกถาวรมูลค่า 410 ล้านยูโร (ประมาณ 476 ล้านดอลลาร์)

ขณะที่ Unite Group ของอังกฤษ ร่วงแรง 10.7% หลังรายงานว่าอัตราการเติบโตของค่าเช่าในไตรมาส 3 ชะลอตัวลง